เมื่อวันที่ 2 ส.ค. 2566 ช่อ พรรณิการ์ วานิช กรรมการบริหารคณะก้าวหน้า กล่าวในรายการแฉหลังการแถลงข่าวของพรรคเพื่อไทย โดยระบุตอนหนึ่งว่า โดยตลอด 2 สัปดาห์ที่ผ่านมาที่ก้าวไกลส่งไม้ต่อให้พรรคเพื่อไทยเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาลนั้น พรรคเพื่อไทยไม่เคยโทรมาหาก้าวไกลเลยว่าจะเอาอย่างไร มันเป็นเหมือนรักทางไกล สื่อสารกันผ่านทวิตเตอร์ เฟซบุ๊ก และติดตามจากรายการข่าวต่างๆ ว่าพรรคเพื่อไทยจะนัดพรรคก้าวไกลคุยเมื่อไหร่หลังจากที่ไปเจรจากับส.ว.และส.ส.มา
เมื่อมดดำ ถามว่าเป็นเพราะก้าวไกลไม่ถอยม.112 ถึงไม่ได้ร่วมรัฐบาลกับพรรคเพื่อไทยหรือไม่ ช่อ ตอบว่า พรรคที่มีนโยบายไม่เอาม.112 ชัดเจนตั้งแต่ช่วงก่อนการเลือกตั้ง ไม่มีใครมีปัญหาอะไร เราไม่สามารถบังคับให้พรรคอื่นมาเห็นด้วยกับการแก้ม. 112 ได้ พรรคใครพรรคมันอยู่แล้ว
ด้านนายชัยธวัช ตุลาธน เลขาธิการพรรคก้าวไกล พูดชัดมากแล้วในการแถลงข่าววันนี้ซึ่งตรงกับที่ตนแอบไปรับทราบมาจากการโทรคุยเบื้องหลังว่าเขาคุยกันอย่างไรบ้าง โดยที่ผ่านมาพรรคก้าวไกลรอมาตลอดว่าหลังจากที่มอบเพื่อไทยไปเจรจาว่าที่ให้ถอยม.112 จะให้ถอยอย่างไร รูปธรรมคืออะไร ตกลงต้องถอนออกหรือว่าไม่เสนอเลยในระยะ 1 ปีหรือไม่เสนอในระยะ 4 ปี หรือจะต้องเอาร่างออกมาฉีกทิ้ง เผาทำลาย ขุดตุ่มฝังเอาไว้หรือว่าต้องทำอย่างไร ถึงจะบอกว่าพอใจแล้วจะโหวตให้ พรรคก้าวไกลก็รอไปจนถึงวันนี้ แต่วันนี้ไม่ต้องรอแล้วเพราะเขาเตะเราออกมาเป็นฝ่ายค้านเรียบร้อยแล้ว
“ไม่เคยมีการกลับมาพูดกับที่ประชุม 8 พรรค หรือกับพรรคก้าวไกล ว่าตกลงเรื่องม.112 จะให้ทำอย่างไร และวันนี้ในการแถลงข่าวของพรรคเพื่อไทยก็พูดชัดเจนว่าเป็นเพราะว่าก้าวไกลมีม. 112 ก็เลยจะไม่มีใครมาร่วม มันก็ทำให้ประชาชนสงสัยว่าแล้วทำไมก้าวไกลไม่ถอยม.112 ไหนตอนแรกว่าให้ไปเจราจา ถ้าก้าวไกลถอยแล้วจะได้ร่วมรัฐบาลต่อไป” ช่อ กล่าวและว่า ซึ่งตนขอย้ำอีกครั้งว่าวันนี้ที่ประชุมที่คุยกันระหว่างเพื่อไทยกับก้าวไกล ไม่มีการยื่นเงื่อนไขให้ก้าวไกลถอยม.112 แต่เขามาบอกให้ก้าวไกลออกไปซะ ถ้ามีคุณอยู่ ไม่สามารถจัดตั้งรัฐบาลได้ ดังนั้นเหมือนที่เราพูดย้ำมาตลอด 2-3 เดือนที่ผ่านมาว่าม.112 เป็นแค่ข้ออ้างให้ออกจากสมการจัดตั้งรัฐบาล
“สุดท้ายเวลาพิสูจน์คนและเผยธุาตแท้ของคน” ช่อ พรรณิการ์ ย้ำ