วันนี้(5 ส.ค.) นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ อดีตนักการเมือง โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กถึงเหตุการณ์ไฟไหม้ สถานบันเทิง MOUNTAIN B จ.ชลบุรี ที่มีผู้เสียชีวิตจำนวนมาก ระบุว่า ประวัติศาสตร์ซำ้รอย “ซานติก้าผับ” เมื่อคืนเกิดเหตุสลด ไฟไหม้ผับ Mountain B ที่สัตหีบ ชลบุรี มีผู้เสียชีวิตแล้ว 13 ราย ผู้บาดเจ็บอีกจำนวนมาก ขอแสดงความเสียใจกับครอบครัวของผู้เสียชีวิตทุกท่านครับ
.
ว่าแล้วสักวันประวัติศาสตร์ต้องซ้ำรอย “ซานติก้าผับ” เมื่อ 10 กว่าปีก่อน ไฟไหม้ในคืนปีใหม่ตายเจ็บร่วมร้อย วันนี้กลับมาเกิดเรื่องอีกด้วยเหตุเดิมๆ คือ นึกอยากเปิดผับ ก็เปิด ไม่อยากจะซ้ำเติม แต่ขั้นตอนป้องกันต้องมี
- ทางเข้าออก ทางหนีไฟ ต้องมีหลายทาง
- ได้รับอนุญาตก่อสร้าง ดัดแปลง จากเจ้าหน้าที่ท้องถิ่น
- ต้องจำกัดจำนวนคนเข้าตามขนาดพื้นที่ที่รับไหว หากคนเกินก็ไม่ให้เข้า จนกว่าจะมีคนออก
ขั้นตอนง่ายๆ ไม่ทำ ปล่อยปละละเลย ข้างในนอกจากมืดแล้วยังเสียงดัง มีทุกจังหวัดทั่วประเทศไทย ชักสงสัยเหมือนกันว่าใน กทม. บรรดาผับดังของทุนจีนทั้ง เอกมัย ทองหล่อ อาร์ซีเอ มีทางออกกี่ทาง มีใบอนุญาตก่อสร้าง ใบอนุญาตผับ-บาร์ ถูกต้องไหม?
.
อยากให้ กทม. ยุคของท่านชัชชาติวิ่งไปดูหน่อยครับ ผับซานติก้าเมื่อ 10 กว่าปีก่อนยังหลอกหลอนไม่หาย คนเข้าเป็นพัน แต่มีทางออกทางเดียว เพราะไม่ได้ขอเป็นผับแต่ต้น ไหนจะใบอนุญาตตำรวจ คงให้เป็นแค่ร้านอาหาร แต่เปิดกันมั่วเนียนๆ เป็นผับทุกที่ คงไม่ต้องร้อง Traffy Fondue เพราะตอนนี้ กทม. เฉพาะตอบข้อร้องเรียน ก็ไม่เป็นอันทำอะไรแล้ว
.