วานนี้(25 ต.ค.2564) นพ.เฉวตสรร นามวาท ผู้อำนวยการกองควบคุมโรค และภัยสุขภาพในภาวะฉุกเฉินกรมควบคุมโรค แถลงสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 โดยระบุว่า สถานการณ์โควิด-19ในไทย เราแบ่งพื้นที่จับตาเป็นภาพรวมประเทศพบว่าลดลง สอดคล้องกับกรุงเทพมหานคร (กทม.) และปริมณฑล แต่ชายภาคใต้จะต่างออกไป พบการติดเชื้อ 23% ขณะที่จังหวัดอื่นๆ พบติดเชื้อ 60% ยังคงทรงตัวไม่ได้ลดลงอย่างกทม.และปริมณฑลที่เห็นได้ชัดเจน โดยแบ่งจังหวัดจับตาออกมา 6 จาก 10 จังหวัด(Watch list) ได้แก่ นครศรีธรรมราช ตาก ระยอง จันทบุรี และที่มีแนวโน้มเพิ่ม คือ เชียงใหม่ และขอนแก่น
.
นพ.เฉวตสรร กล่าวถึงกรณีไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์ใหม่ (AY.4.2)ว่า เป็นสายพันธุ์ย่อยของสายพันธุ์เดลต้า โดยในช่วง 28 วันที่ผ่านมา จำนวนผู้ติดเชื้อสายพันธุ์ย่อยนี้ในอังกฤษเพิ่มสูงขึ้น โดยเป็นรองเฉพาะประเทศอเมริกาที่เดียว และพบสายพันธุ์นี้ 6% ของจำนวนผู้ติดเชื้อในภาพรวมของอังกฤษ ซึ่งเดลต้าเดิมยังเป็นสายพันธุ์หลัก แต่สายพันธุ์ย่อยนี้อยู่ในช่วงจับตามอง แต่ยังไม่ต้องมีความกังวลในเรื่องความรุนแรงกว่าปกติ หรือมีโอกาสดื้อยา ดื้อวัคซีนหรือไม่
.
ทั้งนี้อยู่ระหว่างจับตามองและหารายละเอียด เพราะเมื่อเปรียบเทียบกับสายพันธุ์อัลฟ่า และเดลต้าที่ผ่านมา ถ้าเป็นสายพันธุ์ที่แพร่ระบาดได้เร็วชัดเจน จะเห็นลูกคลื่นการระบาดที่เร็วและแรงมาก ซึ่งผู้เชี่ยวชาญระหว่างประเทศมองว่าเป็นการให้ความสำคัญของประเทศอังกฤษในการจับตามอง ขณะที่องค์การอนามัยโลกยังไม่ได้ยกระดับ
.
นพ.เฉวตสรร ระบุว่า สำหรับประเทศไทยมีระบบเฝ้าระวังสายพันธุ์และสายพันธุ์ย่อยต่างๆ อย่างต่อเนื่องและเมื่อตรวจสอบดูพบรายงานของเดลต้าพลัสเพียง 1 ราย และไม่มีรายอื่นที่เกี่ยวเนื่อง โดยเป็นชายอายุ 49 ปี ประวัติทำงานที่ อ.บางไทร จ.พระนครศรีอยุธยา ซึ่งมีการส่งตัวอย่างที่สถาบันวิจัยวิทยาศาสตร์การแพทย์ทางทหาร กองทัพบก (AFRIMS) พบสายพันธุ์ AY.4.2 เป็นการตรวจพบตั้งแต่เดือนกันยายน 2564 ซึ่งผู้ป่วยได้รักษาหายแล้ว และมีการสุ่มตรวจรายอื่นๆ ยังไม่พบผู้ติดเชื้อที่เชื่อมโยงกับผู้ป่วยรายนี้
.
อีกทั้งสุ่มตรวจเป็นระยะๆ ยังไม่พบการแพร่ระบาดเพิ่มขึ้น และประวัติรายนี้ไม่พบว่ามีการเดินทางไปสถานที่เสี่ยง หรือไปต่างประเทศ อย่างไรก็ตาม ความน่ากังวลของสายพันธุ์นี้ ที่คาดการณ์น่าจะมีการติดเชื้อที่ง่ายเพิ่มขึ้นเล็กน้อยจากเดลต้าเดิม ทั้งนี้จะแถลงรายละเอียดเป็นทางการอีกครั้ง
.
- Advertisement -