หน้าแรกข่าวเด่นค้าขายไม่ค้าความ

ค้าขายไม่ค้าความ

เมื่อวันที่ 1 พ.ย. 2567 นายสุริยพงศ์ ทับทิมแท้ ผู้อำนวยการสถาบัน อนุญาโตตุลาการ โพสต์ข้อความในหัวข้อ “ค้าขายไม่ค้าความ”​ ระบุว่า

ตั้งแต่มีระบบการนับของโลกใบนี้ให้มีวันละ 24 ชั่วโมงจวบจนถึงปัจจุบันโลก ของเราก็ยังมีวันละ 24 ชั่วโมงเท่าเดิมแต่ที่เปลี่ยนแปลงไปคือปริมาณการค้าที่เพิ่ม มากขึ้นจากการพัฒนาทางด้านเศรษฐกิจและสังคมอันส่งผลต่อการเพิ่มประชากรของโลกและการบริโภคที่ตามมาที่นำไปสู่การขยายตัวของการค้าขายในประเทศ และระหว่างประเทศซึ่งบ่อยหนที่การค้าขายที่ต้องมีผู้ซื้อและผู้ขายมักจะเกิดความ ขัดแย้งและนำไปสู่ข้อพิพาทระหว่างกันจนกลายไปสู่การฟ้องร้องกันในศาล

​ต้นทุนในการค้าขายทางตรงคือต้นทุนคงที่และต้นทุนผันแปรที่เรานำมาใช้ ในการคำนวณผลตอบแทนจากการทำธุรกิจแต่ในปัจจุบันต้นทุนที่สำคัญกลับมี ต้นทุนด้านเวลาและต้นทุนค่าเสียโอกาสที่เข้ามามีบทบาทสำคัญในการทำธุรกิจและการบริหารเศรษฐกิจโดยภาพรวม หากเกิดการฟ้องร้องกันในศาลย่อมทำให้คู่ กรณีจะต้องแบกรับต้นทุนจากการเสียเวลาและเสียโอกาสในการดำเนินธุรกิจอย่างต่อเนื่องที่ส่งผลต่อการเติบโตของธุรกิจและเศรษฐกิจในระยะยาว

​การใช้การระงับข้อพิพาททางเลือก (Alternative Dispute Resolution) ที่ประกอบไปด้วยการเจรจา (Negotiation) การประนอมข้อพิพาท (Mediation) และการอนุญาโตตุลาการ (Arbitration) เป็นเครื่องมือที่สำคัญที่ช่วยลดเวลาใน การแก้ปัญหาข้อพิพาทโดยไม่ต้องฟ้องร้องกันในศาล ทำให้ลดต้นทุนในด้านเวลา และต้นทุนค่าเสียโอกาสอย่างมีนัยสำคัญ เป็นกระบวนการที่ส่งเสริมหลักนิติธรรม (Rule of Law) ที่มุ่งเน้นความพึงพอใจร่วมมากกว่าการชี้ถูกผิดโดยกฎหมาย (Rule of Lawyer) เพียงอย่างเดียว อันนำไปสู่การมุ่งเน้นการค้าขาย (Deal) มาก กว่าค้าความ (Dispute) ประเทศไทยจึงควรส่งเสริมการระงับข้อพิพาททางเลือก ให้กับนักธุรกิจทุกระดับเพื่อทำให้เกิดการพัฒนาเศรษฐกิจประเทศอย่างยั่งยืน

…..

#Thepoint #Newsthepoint

#​สุริยพงศ์ทับทิมแท้ #อนุญาโตตุลาการ #เศรษฐกิจไทย

Must Read

Related News

- Advertisement -