วันนี้(22 ก.พ.) นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม หัวหน้าพรรคไทยภักดี ได้โพสต์ข้อความบนเฟซบุ๊ก ระบุว่า พรรคเล็กร้องเรื่องบัตรสองใบ นอกจากพรรคพลังธรรมใหม่ของคุณหมอระวีแล้ว ล่าสุดพรรคเศรษฐกิจใหม่ โดยนายมนูญ สิวาภิรมย์รัตน์ ส.ส.บัญชีรายชื่อและหัวหน้าพรรคเศรษฐกิจใหม่ ได้ใช้สิทธิตามรัฐธรรมนูญมาตรา 213 ไปยื่นเรื่องต่อผู้ตรวจการแผ่นดิน เพื่อส่งต่อศาลรัฐธรรมนูญ ในการแก้ไขรัฐธรรมนูญใช้บัตร 2 ใบ ว่าละเมิดสิทธิพรรคเล็ก พรรคใหญ่ได้เปรียบ
.
เรื่องดังกล่าวนี้ ผมเคยใช้สิทธิในฐานะประชาชนและหัวหน้าพรรคการเมือง ยื่นเรื่องต่อผู้ตรวจการแผ่นดิน และได้ยื่นต่อศาลรัฐธรรมนูญตามขั้นตอน ซึ่งศาลรัฐธรรมนูญไม่รับคำร้องที่ผมยื่น โดยให้เหตุผลว่า “ไม่ปรากฏว่าผู้ร้องเป็นบุคคลซึ่งถูกละเมิดสิทธิหรือเสรีภาพโดยตรงจากการกระทำใด”
.
ผมก็ยังงงๆ กับคำวินิจฉัยไม่รับคำร้อง ของศาลรัฐธรรมนูญว่า ผมในฐานะหัวหน้าพรรคการเมือง ไม่ถูกละเมิดสิทธิอย่างไร เพราะระบบเลือกตั้งแบบบัตรใบเดียว ได้กำหนดให้ “คะแนนเสียงของประชาชนทุกคะแนนมีความหมายต่อผลการเลือกตั้ง”แต่มาแก้เป็นระบบสองใบ ที่ผู้ชนะกินรวบ คะแนนคนแพ้ถูกตัดทิ้ง พรรคใหญ่ได้เปรียบ มีเงินมากจะได้ทั้งขึ้นทั้งร่อง
.
เราคงต้องติดตามดูว่า ผลจะออกมาเช่นไร ที่พรรคเล็กที่มีส.ส.ในสภา เขาร้องว่าเขาถูกละเมิดสิทธิ์จากการแก้ไขครั้งนี้ ผมไม่อยากให้ประเทศกลับไปจมปลักกับปัญหาเดิมๆ เรื่องมุ้งการเมือง ที่นำไปสู่การต่อรองผลประโยชน์ สุดท้ายหนีไม่พ้นพรรคใหญ่กินรวบแบ่งกันกินแบ่งกันโกง และเกิดเผด็จการรัฐสภา คงต้องเรียกร้องผู้ตรวจการแผ่นดินและศาลรัฐธรรมนูญ มองอนาคตประเทศ ให้ศึกษาความมุ่งหมายและคำอธิบายประกอบรายมาตรา ของรัฐธรรมนูญ 2560 ว่าทำไมกรรมาธิการยกร่าง จึงต้องใช้บัตรใบเดียว ไม่ใช้ระบบแบบเดิม เพื่อให้ประเทศของเราเดินไปข้างหน้าต่อไป
.
หมายเหตุ : หลายท่านอาจจะชอบ ระบบบัตรสองใบเพราะแยกเลือกพรรคและเลือกคนได้ตามที่ชอบ แต่บทพิสูจน์บริบทการเมืองไทยที่ผ่านมาพบว่า ระบบนี้ประเทศไปไม่ได้
.
ส่วนบัตรใบเดียว แม้จะเป็นรัฐบาลผสม แต่ก็มีเสถียรภาพ ไม่มีมุ้งมาต่อรอง เพิ่งจะเกิดมุ้งมาต่อรอง รัฐบาลสั่นคลอน หลังจากแก้ไปสู่บัตรสองใบนี่เอง ที่สำคัญ เราเพิ่งเริ่มใช้ น่าจะให้ระบบทำงานไปสักระยะ ในภาพรวมที่ผ่านมา ระบบบัตรใบเดียว สร้างความเสียหายต่อประเทศ น้อยกว่าระบบบัตรสองใบ
.
- Advertisement -