เมื่อวันที่ 31 พ.ค. 2566 คณะนิเทศศาสตร์และนวัตกรรมการจัดการ สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (นิด้า) เผยผลงานวิจัยเกี่ยวกับ ความคิดเห็นของประชาชนที่มีต่อ นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ดำรงตำแหน่งผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ครบรอบ 1 ปี นับจากวันที่ 1 มิ.ย.2565 จากกลุ่มตัวอย่าง 200 คน พบว่า นายชัชชาติได้คะแนนเฉลี่ย ความทุ่มเทในการทำงานและมีความเป็นมืออาชีพในการเป็นผู้ว่าฯ กทม. มากที่สุด 4.27 จากคะแนนเต็ม ส่วนปัญหาที่ต้องการร้องเรียนให้มีการแก้ไข 3 อันดับแรก ได้แก่ ปัญหาการจราจร 20% การจัดการพื้นที่ทางเท้า 16% และปัญหาขยะ 12%
ความคิดเห็นที่มีต่อนายชัชชาติ โดยการทุ่มเทในการทำงานและมีความเป็นมืออาชีพในการเป็นผู้ว่า กทม. ได้ค่าเฉลี่ย 4.27 , มีภาพลักษณ์และการวางตัวที่ดี ค่าเฉลี่ย 4.10, มีทักษะ ความรู้เฉพาะด้าน เช่น ความรู้ด้านการบริหารราชการ ความรู้ด้านวิศวกรความรู้ด้านเทคโนโลยี ค่าเฉลี่ย 4.05, มีความน่าเชื่อถือเมื่อปรากฎตัวผ่านสื่อ ค่าเฉลี่ย 3.91 และที่เป็นที่รู้จักและเป็นที่นิยมของประชาชน ค่าเฉลี่ย 3.84
ส่วน 9 ปัญหาที่ต้องการร้องเรียนให้มีการแก้ไข ปัญหาการจราจร 20%, การจัดการพื้นที่ทางเท้า 16%, ปัญหาขยะ 12%, พื้นผิวถนน 11.5%, สายไฟและสายสื่อสาร 9%, ความปลอดภัย 8.5%, เตรียมรับมือน้ำท่วม 7%, แสงสว่าง 3.5% และอื่นๆ เช่น สัตว์จรจัด เสียงดัง สิ่งกีดขวาง 1.5%
ด้านรศ.ดร.กุลทิพย์ ศาสตระรุจิ คณบดีคณะนิเทศศาสตร์และนวัตกรรมการจัดการ สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ กล่าวว่า นายชัชชาติได้เคยรณรงค์หาเสียงไว้ 100 นโยบาย เมืองที่น่าอยู่สำหรับทุกคน 9 ด้าน ปลอดภัยดี สุขภาพดี สร้างสรรค์ดี สิ่งแวดล้อมดี บริหารจัดการดี เรียนดี โครงสร้างดี เศรษฐกิจดี เดินทางดี เวลาผ่านไป 1 ปี คือ 365 วัน ตามที่ได้โฆษณาไว้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งปัญหาจราจร การเดินทาง และปัญหาการจัดการพื้นที่ทางเท้า ซึ่งเกี่ยวเนื่องกับหลายฝ่าย ทั้งการเคารพกฎหมายของประชาชน หรือหน่วยงานภาครัฐอย่างกระทรวงคมนาคม ผู้ตอบแบบสอบถามสะท้อนการใช้ชีวิตของคนกรุงที่ต้องพบปัญหาในการใช้ชีวิตประจำวันนั่นคือ การเดินทาง ทั้งทางรถ หรือทางเท้า และยังคงความคาดหวังต่อการบริหารจัดการที่เป็นรูปธรรม ตามที่ผู้ว่าฯ ได้รณรงค์ไว้