จากกรณีเพจงานนโยบาย สโมสรนักศึกษามหาวิทยาลัยเชียงใหม่ออกมาเคลื่อนไหวรณรงค์ให้บัณฑิตไม่เข้ารับพระราชทานปริญญาบัตร ครั้งที่ 55 แต่ปรากฏว่ามีเพียง 2 คนเท่านั้น นายยศสุนทร รัตตประดิษฐ์ นักศึกษาชั้นปีที่ 4 คณะวิจิตรศิลป์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ และน.ส.พิมชนก ใจหงษ์ หรือพิม ทะลุฟ้า แกนนำกลุ่มแนวร่วมคนรุ่นใหม่นครสวรรค์ ตัวแทนกลุ่ม 24 มิถุนาประชาธิปไตย และแกนนำกลุ่มทะลุฟ้า ที่ไปเคลื่อนไหวชูป้ายหน้าหอประชุมใหญ่ที่จัดพิธีพระราชทานปริญญาบัตร ก่อนถูกตำรวจ นำตัวไปนั้น
.
ล่าสุดน.ส.ณัฏฐา มหัทธนา หรือโบว์ นักเคลื่อนไหวทางการเมือง โพสต์เฟซบุ๊กถึงกรณีดังกล่าวระบุว่า นายจ้างที่ตั้งป้อมจะไม่รับคนที่ไม่เข้าพิธีรับปริญญาเข้าทำงานก็ใจแคบไปหน่อย และอาจลืมคิดไปว่าจริงๆ ในแต่ละปีที่ผ่านมาก็มีบัณฑิตมากมายที่ไม่ได้เข้าร่วมพิธีด้วยเหตุผลและข้อจำกัดในชีวิตต่างๆกัน ถ้าเป็นเราคงไม่เอามาเป็นเหตุตั้งข้อรังเกียจ
.
แต่สำหรับคนที่จงใจไปป่วนงานคนอื่นในขณะที่ทั้งบัณฑิตและครอบครัวกำลังมีช่วงเวลาที่มีค่าสำหรับพวกเขาอยู่ เป็นเราก็ไม่รับเข้าทำงานเหมือนกัน การรู้จักเคารพให้เกียรติคนคือคุณสมบัติพื้นฐานของการทำงานร่วมกัน และการรู้กาลเทศะก็ต้องใช้แค่วุฒิภาวะขั้นต่ำเท่านั้นเอง คนที่จะแก้ปัญหาในการทำงานได้ต้องมีทั้งความคิดสร้างสรรค์และวิธีการบรรลุเป้าหมายโดยไม่ต้องทำลายความสัมพันธ์และคุณสมบัติเหล่านั้น ถ้ายังไม่มี ไม่ว่าจะรับปริญญาทางไปรษณีย์หรือจากเจ้าฟ้าองค์ไหนมากี่ใบก็ไม่มีประโยชน์
.
ทั้งนี้ในโพสต์ดังกล่าว มีอาจารย์มหาวิทยาลัยรายหนึ่งเข้าไปคอมเมนต์ว่า “เขาไปป่วนยังไงครับ มีคนไปขู่เข็ญคนอื่นไม่ให้ไปรับปริญญาเหรอครับ” น.ส.ณัฏฐา ตอบกลับว่า”ไว้คุณจัดงานวันเกิดเชิญแขกเหรื่อญาติผู้ใหญ่มาอวยพร แล้วมีคนมายืนกรี๊ดๆ ด่าทออยู่หน้าบ้านคุณ ค่อยตอบตัวเองแล้วกันค่ะ”
.
โบว์ ยังระบุอีกว่า การสร้างบรรยากาศที่ทำให้เพื่อนร่วมสังคมรู้สึกว่าถูกระราน ไม่ใช่การรณรงค์ และต่อให้ตัดเรื่องการให้เกียรติกันออกไป ก็ยังจะเป็นการเคลื่อนไหวที่ให้ผลลบมากกว่าบวกต่อเป้าหมายของการเคลื่อนไหวนั้นเอง นี่คือสิ่งที่คนซึ่งคิดว่า “ฉันอยากจะทำอะไรฉันก็ต้องทำได้” ไม่เข้าใจ ส่วนใครที่ยังไม่เคยเห็นคลิปเหตุการณ์เต็มๆ อย่าเพิ่งไปถือหางให้ท้ายดีกว่าค่ะ ความเสียหายจะมากกว่าเดิม(คลิปเหตุการณ์เต็มความยาว 15 นาที ไม่ขอเผยแพร่ให้นะคะ สำนักข่าวต่างๆที่เขียนข่าวนี้อย่างบิดเบือนก็ไม่ลงให้ดู แต่ไปตามหาดูได้ไม่ยาก)
.
นอกจากนี้ โบว์ ยังโพสต์ทวิตเตอร์ระบุว่า คำว่า “คนเท่ากัน” มีไว้ให้เราเห็นคุณค่าของคนในฐานะเพื่อนมนุษย์ ไม่ได้แปลว่าเราจะแสดงความเคารพให้เกียรติใครไม่ได้ ความสัมพันธ์ของมนุษย์มีมิติ ด้วยความที่เราทุกคนมีความแตกต่าง เราจึงมีการให้และรับที่หลากหลาย ไม่ใช่ทำทุกอย่างเหมือนๆกันอย่างตายตัว แต่เป็นการเติมเต็มส่วนขาดให้กัน เช่น คนที่มีประสบการณ์มากกว่า มั่นคงแข็งแรงกว่า สิ่งที่เขาจะหยิบยื่นให้คนที่อ่อนกว่าได้คือการปกป้องดูแล การแชร์ประสบการณ์ การให้อภัยเมื่อผิดพลาดจากความไม่รู้ ในขณะที่อีกฝ่ายก็มีหลายสิ่งที่ให้กันได้ ความเอื้ออาทร การให้เกียรติ คำขอบคุณ หรือการช่วยเหลือดูแลในสิ่งที่อีกฝ่ายขาดไป
.
คำว่า “คนเท่ากัน” จึงไม่ควรถูกตีความอย่างทื่อๆจนไปทำลายความละเอียดอ่อนที่มนุษย์มีต่อกัน เพราะคนไม่ได้ “เหมือนกัน” แต่เราใช้ความต่างของเรามาดูแลกันเพราะเราเห็นคุณค่าในความเป็นเพื่อนมนุษย์ คนเท่ากันจึงไม่ได้แปลว่าทุกคนต้องถูกปฏิบัติเหมือนๆกัน แต่แปลว่าเราเห็นคุณค่าของกันและกัน
.

ThePOINT #ข่าวการเมือง #โบว์ณัฏฐา #ณัฏฐามหัทธนา #ไม่รับปริญญา #มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ #สโมสรนักศึกษามช.