หน้าแรกสุขภาพ ไลฟ์สไตล์แชร์ความลับ “4 น้ำมัน” ที่ดีที่สุดต่อสุขภาพ และทั่วโลกยอมรับ!!

แชร์ความลับ “4 น้ำมัน” ที่ดีที่สุดต่อสุขภาพ และทั่วโลกยอมรับ!!

เพจ ‘AVBhealthystyle แชร์เคล็ดลับสุขภาพดีๆๆ’ โพสต์ข้อความในหัวข้อ “เจาะลึก 4 น้ำมันสุขภาพ: น้ำมันเมล็ดแฟลกซ์, น้ำมันมะกอก, น้ำมันอโวคาโด และน้ำมันงาขี้ม่อน”

ปัจจุบัน น้ำมันเพื่อสุขภาพได้รับความนิยมมากขึ้น เนื่องจากช่วยเสริมสร้างร่างกายให้แข็งแรงและป้องกันโรคต่างๆ วันนี้เราจะพาคุณไปเจาะลึก 4 น้ำมันที่เป็นที่รู้จักกันดี ได้แก่ น้ำมันเมล็ดแฟลกซ์, น้ำมันมะกอก, น้ำมันอโวคาโด และน้ำมันงาขี้ม่อน เพื่อทำความเข้าใจถึงประโยชน์ จุดเด่น และวิธีการใช้อย่างถูกต้อง

1. น้ำมันเมล็ดแฟลกซ์ (Flaxseed Oil)

คุณค่าทางโภชนาการ:

• อุดมไปด้วย โอเมก้า-3 (ALA – Alpha Linolenic Acid) ซึ่งช่วยลดการอักเสบและดีต่อสุขภาพหัวใจ

• มีไฟโตเอสโตรเจนที่ช่วยปรับสมดุลฮอร์โมน เหมาะสำหรับสตรีวัยทอง

• เป็นแหล่งของสารต้านอนุมูลอิสระที่ช่วยป้องกันการเสื่อมของเซลล์

ประโยชน์:

• ลดระดับคอเลสเตอรอลไม่ดี (LDL) และช่วยลดความเสี่ยงโรคหัวใจ

• บำรุงสมอง และระบบประสาท ลดความเสี่ยงของภาวะสมองเสื่อม

• ช่วยเรื่องระบบขับถ่าย ป้องกันอาการท้องผูก

วิธีใช้:

• ควรบริโภคแบบเย็น ไม่ควรใช้ทอดหรือปรุงอาหารที่ใช้ความร้อนสูง เพราะโอเมก้า-3 จะเสื่อมคุณภาพ

• สามารถเติมลงในสลัด สมูทตี้ หรือรับประทานวันละ 1-2 ช้อนชาเพื่อสุขภาพ

2. น้ำมันมะกอก (Olive Oil)

คุณค่าทางโภชนาการ:

• มีกรดไขมันไม่อิ่มตัวเชิงเดี่ยวสูง (Omega-9) ซึ่งช่วยลดการอักเสบในร่างกาย

• อุดมไปด้วย โพลีฟีนอล และวิตามินอี ซึ่งเป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่ดีเยี่ยม

• มีสรรพคุณช่วยปรับสมดุลของคอเลสเตอรอลในร่างกาย

ประโยชน์:

• ลดความเสี่ยงของโรคหัวใจและโรคความดันโลหิตสูง

• บำรุงผิวพรรณให้ชุ่มชื้นและลดริ้วรอย

• มีฤทธิ์ช่วยลดอาการอักเสบในร่างกาย เช่น โรคข้อเสื่อมและโรคเบาหวาน

วิธีใช้:

• สามารถใช้ทำอาหารได้ทั้งแบบเย็น (Salad Dressing) และแบบผัดเบาๆ

• เลือกน้ำมันมะกอกชนิด Extra Virgin เพื่อให้ได้สารอาหารครบถ้วน

• ควรเก็บในที่เย็นและมืดเพื่อรักษาคุณภาพของน้ำมัน

3. น้ำมันอโวคาโด (Avocado Oil)

คุณค่าทางโภชนาการ:

• อุดมไปด้วยกรดไขมันไม่อิ่มตัวเชิงเดี่ยวที่ช่วยลดคอเลสเตอรอล

• มีวิตามินอีสูง ช่วยบำรุงผิวและเสริมสร้างภูมิคุ้มกัน

• อุดมไปด้วย ลูทีน ซึ่งเป็นสารอาหารสำคัญสำหรับสุขภาพดวงตา

ประโยชน์:

• ช่วยบำรุงหัวใจ ลดความเสี่ยงของโรคหลอดเลือดและความดันโลหิตสูง

• มีส่วนช่วยกระตุ้นการผลิตคอลลาเจน ทำให้ผิวพรรณสดใส

• ทนความร้อนได้ดีมาก สามารถใช้ในการทำอาหารที่ใช้ความร้อนสูง เช่น ทอด หรือผัด

วิธีใช้:

• ใช้แทนน้ำมันพืชในการทำอาหาร เช่น ผัด ปิ้ง หรือย่าง

• สามารถใช้เป็นน้ำมันบำรุงผิวหรือหมักผมเพื่อเพิ่มความชุ่มชื้น

4. น้ำมันงาขี้ม่อน (Perilla Seed Oil)

คุณค่าทางโภชนาการ:

• มีปริมาณ โอเมก้า-3 สูงกว่าน้ำมันเมล็ดแฟลกซ์ ทำให้มีประโยชน์ในการลดการอักเสบ

• มีสารต้านอนุมูลอิสระสูง เช่น ฟลาโวนอยด์และกรดโรสมารินิก ซึ่งช่วยลดความเสี่ยงของโรคเรื้อรัง

• ช่วยส่งเสริมสุขภาพทางเดินหายใจและลดอาการภูมิแพ้

ประโยชน์:

• บำรุงสมองและช่วยลดความเสี่ยงของโรคอัลไซเมอร์

• ลดอาการภูมิแพ้และช่วยบรรเทาอาการของโรคหอบหืด

• ช่วยบำรุงผิวและลดอาการอักเสบของผิวหนัง เช่น โรคผื่นภูมิแพ้ผิวหนัง (Eczema)

วิธีใช้:

• ควรบริโภคแบบเย็น เช่น ผสมในสลัดหรือสมูทตี้

• ไม่ควรใช้ทอดหรือปรุงอาหารที่ใช้ความร้อนสูง เพราะจะทำให้สารอาหารเสื่อมสภาพ

สรุป: น้ำมันไหนเหมาะกับใคร?

• ต้องการโอเมก้า-3 สูง: แนะนำ น้ำมันงาขี้ม่อน และ น้ำมันเมล็ดแฟลกซ์

• ต้องการสารต้านอนุมูลอิสระและลดการอักเสบ: น้ำมันมะกอก เป็นตัวเลือกที่ดี

• ต้องการน้ำมันที่สามารถใช้ปรุงอาหารที่ใช้ความร้อนสูง: น้ำมันอโวคาโด เหมาะสมที่สุด

• ต้องการบำรุงผิวและเสริมสร้างภูมิคุ้มกัน: เลือก น้ำมันอโวคาโด และ น้ำมันมะกอก

การเลือกใช้น้ำมันที่เหมาะสมกับไลฟ์สไตล์ของคุณสามารถช่วยเสริมสร้างสุขภาพที่ดีและลดความเสี่ยงของโรคเรื้อรังได้ ลองนำไปปรับใช้ในชีวิตประจำวันเพื่อสุขภาพที่ดีขึ้น!

สนับสนุนบทความโดย UP OIL

แหล่งที่มา:

• National Institutes of Health (NIH)

• American Heart Association

• Journal of Nutrition & Metabolism

• Food & Agriculture Organization (FAO)


…..

#Thepoint #Newsthepoint

#avbhealthy #น้ำมันเพื่อสุขภาพ #น้ํามันสกัดเย็น #ไขมันดี

#เคล็ดลับสุขภาพ #เธรดคนรักสุขภาพ

Must Read

Related News

- Advertisement -