เมื่อวันที่ 23 ม.ค.67 นายชัย วัชรงค์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ในการประชุมคณะรัฐมนตรีอย่างเป็นทางการนอกสถานที่ หรือ ครม.สัญจร จังหวัดระนอง ครั้งที่ 1/2567 นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ได้สั่งการให้ทุกกระทรวงไปพิจารณาทบทวน หรือยกเลิกแก้ไขกฎระเบียบต่าง ๆ ที่เป็นอุปสรรคต่อการทำธุรกิจ หลังจากได้รับการร้องเรียนมาจากนักลงทุนต่างชาติร้องเรียนในช่วงที่เดินทางไปประชุม World Economic Forum 2024 ที่ดาวอส
“นายกรัฐมนตรี แจ้งว่า จากการไปประชุม WEF ที่ดาวอส ได้คุยกับเอกชนยุโรปที่ทำธุรกิจในประเทศไทย เช่น กลุ่มเวชภัณฑ์ และยา สะท้อนความเห็นว่า เวลาทำธุรกิจในไทยมีปัญหาเรื่องกฎระเบียบและข้อบังคับยุ่งยาก ทำให้เรื่องดี ๆ เช่น ยารักษามะเร็ง หรือยารักษาโรคสำคัญ ๆ ในประเทศยุโรปได้ขึ้นทะเบียนยา และประชาชนก็ได้ใช้ยามาหลายปีแล้ว แต่ประเทศไทยกลับขึ้นทะเบียนยากเย็นแสนเข็ญ ทั้ง ๆ ที่ประเทศเหล่านี้ที่ได้ขึ้นทะเบียนยามีมาตรฐานการแพทย์สูงระดับโลก” นายชัยอ้างคำพูดนายกรัฐมนตรี
โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวด้วยว่า นายกรัฐมนตรียืนยันถึงเรื่องดังกล่าวว่า สอดคล้องนโยบายรัฐบาลที่ต้องการสร้างความสะดวกสบายในการประกอบธุรกิจ หรือ Ease of doing business ดังนั้นจึงต้องการให้ในปี 2567 นี้ ให้ทุกหน่วยงานพิจารณาทบทวนหรือยกเลิกแก้ไขกฎระเบียบที่เป็นอุปสรรคต่อการประกอบธุรกิจ ให้ครอบคลุมทั้งผู้ประกอบการไทย และผู้ประกอบการจากต่างประเทศ เพื่อให้การดำเนินธุรกิจสามารถเดินต่อไปได้อย่างราบรื่น ไม่เจอกฎระเบียบของทางราชการที่ล่าช้าเหมือนปัจจุบัน
ขณะเดียวกันนายกรัฐมนตรี ยังสั่งการให้คณะกรรมการด้านการขอปฏิรูปกฎหมายที่เป็นอุปสรรคต่อการดำเนินธุรกิจ รวมทั้งกรมศุลกากรและกรมสรรพสามิต ผ่านรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง สำนักงานอาหารและยา (อย.) ผ่านรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ให้เร่งแก้ไขและปรับปรุงข้อกฎหมายที่เป็นอุปสรรคต่อการดำเนินธุรกิจ เพื่อเป็นการดึงนักลงทุนจากต่างชาติ รวมไปถึงนักธุรกิจในประเทศไทยเองจะได้สร้างบรรยากาศที่ดีที่เอื้อต่อการลงทุนต่อไป