หน้าแรกการเมืองเพื่อไทย ชี้ 'ประธานสภาฯ' ต้องเป็นกลาง ไม่ใช่ผลักดันเพื่อพรรคใดพรรคหนึ่ง ย้ำชนะมาด้วยกันต้องทำงานด้วยความเชื่อใจ

เพื่อไทย ชี้ ‘ประธานสภาฯ’ ต้องเป็นกลาง ไม่ใช่ผลักดันเพื่อพรรคใดพรรคหนึ่ง ย้ำชนะมาด้วยกันต้องทำงานด้วยความเชื่อใจ

เมื่อวันที่ 26 พ.ค. 2566 จากกรณีการดำรงตำแหน่งประธานสภา ที่ขณะนี้พรรคร่วมรัฐบาล ทั้งพรรคก้าวไกลและพรรคเพื่อไทย จนมีวิวาทะในเรื่องดังกล่าวออกมาอย่างต่อเนื่อง

ล่าสุด พรรคเพื่อไทย โพสต์เฟซบุ๊ก ตำแหน่งประธานสภา ควรใช้เพื่อผลักดันทุกนโยบายของพรรคร่วมรัฐบาลให้สำเร็จ โดยมีเนื้อหาดังนี้

ประธานสภา ควรเปิดทางผลักดัน ‘ทุกนโยบาย’ ของ ‘พรรคร่วมรัฐบาล’ ให้สำเร็จ ไม่ใช่ผลักดันวาระของพรรคใดพรรคหนึ่งเท่านั้น

ปัจจุบันที่เป็น ‘รัฐบาลผสม’ มีภารกิจสำคัญใน MOU ร่วมกัน ไม่ว่าประธานสภาจะเป็นใคร มาจากพรรคใด ก็ต้องทำภารกิจร่วมกันให้บรรลุเป้าหมาย

หากจะพิจารณากันอย่างถ่องแท้ ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 116 และ 119 ประธานสภาต้องปฏิบัติหน้าที่ด้วยความเป็นกลาง โดยเป็นประธานของ ส.ส.ทั้งสภา ทั้งฝ่ายค้านและรัฐบาล รัฐธรรมนูญมาตรา116 จึงบัญญัติว่าประธานและรองประธานสภาผู้แทนจะเป็นกรรมการบริหารพรรคการเมืองในเวลาเดียวกันไม่ได้

ประธานสภาจึงต้องผลักดันญัตติใด ๆ ไม่ว่าจะเป็นของรัฐบาล ฝ่ายค้าน หรือประชาชนเข้าสู่สภา ไม่เลือกปฏิบัติ และหาทางลดอุปสรรคทั้งหลาย ตามหลักการปกครองระบอบประชาธิปไตยในระบอบรัฐสภา

ข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้นในวงการเจรจาพรรคร่วมรัฐบาล พรรคแกนนำจัดตั้งรัฐบาล และทุกฝ่ายเห็นตรงกันว่า การจัดสรรตำแหน่งจะคำนึงถึงความยุติธรรมกับทั้ง 2 ฝ่ายเป็นหลัก

หากจะยกกรณีที่เพื่อไทยชนะการเลือกตั้ง ชนะโหวตทั้งนายกฯ และประธานสภามาโดยตลอด ไม่มีพรรคอันดับ 2 ได้ นั่นเป็นเพราะเพื่อไทยชนะเลือกตั้งเด็ดขาด ได้คะแนนเสียงเกินครึ่งหนึ่งของสภาผู้แทนราษฏร จึงชนะโหวตด้วยเสียงของ ส.ส.และผู้สนับสนุน

ในกรณีนี้ เราชนะมาด้วยกัน ก็ควรทำงานร่วมกันด้วยความไว้เนื้อเชื่อใจในฐานะพรรรคร่วมรัฐบาล หลีกเลี่ยงที่จะใช้มวลชนกดดัน แต่ควรหาทางทำภารกิจเพื่อประชาชนร่วมกันให้สำเร็จ ประเทศจึงจะได้ประโยชน์สูงสุด

Thepoint #Newsthepoint #เลือกตั้ง2566 #MOU #ก้าวไกล #เพื่อไทย #ประธานสภา #พรรคร่วมรัฐบาล

Must Read

Related News

- Advertisement -