วันที่ 11 พ.ย. ที่รัฐสภา นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว ส.ส.น่าน และหัวหน้าพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณีที่
ศาลรัฐธรรมนูญมีคำวินิจฉัย 3 แกนนำราษฎรเข้าข่ายล้มล้างการปกครองว่า ในนามพรรคเพื่อไทยเรื่องนี้มีความละเอียดอ่อนมาก โดยได้มอบหมายให้ฝ่ายกฎหมายของพรรคศึกษารายละเอียดในคำวินิจฉัยอย่างละเอียดก่อนที่จะมีท่าทีออกไป แต่คำวินิจฉัยใดๆก็แล้วแต่ก็มีความคิดเห็นที่แตกต่างกันไป ทั้งเห็นด้วยและเห็นต่าง โดยเฉพาะประเด็นที่มีความเห็นต่างเป็นที่เผยแพร่ในสื่อมวลชนว่าเป็นไปตามคำร้องหรือไม่ และเป็นไปตามบทบัญญัติรัฐธรรมหรือไม่ มีการพิจารณาครบถ้วนรอบด้านหรือไม่ โดยเฉพาะเรื่องการไต่สวนผู้ถูกร้องหรือพยานที่เป็นประเด็นอยู่ สิ่งเหล่านี้เองในระบบบ้านเราคำวินิจฉัยรัฐธรรมนูญเป็นสิ่งที่ผูกพันทุกองค์กรก็นำมามาสู่การปฏิบัติ มันเป็นเสมือนการเขียนรัฐธรรมนูญขึ้นมาใหม่
.
นพ.ชลน่าน ระบุว่า ในฐานะหัวหน้าพรรคเพื่อไทย และสมาชิกพรรคเพื่อไทย ได้ปรึกษากันและเป็นห่วงคือมันจะนำไปสู่ความแตกแยกหรือไม่อย่างไร หรือจะมีเหตุอะไรบานปลายหรือไม่ เป็นข้อมูลใหญ่ของเรา เราไม่ได้โต้แย้งหรือขัดแย้งใดๆกับคำวินิจฉัย นี่คือความห่วงใยของผลกระทบที่เกิดขึ้น โดยเฉพาะประเด็นข้อห่วงใยเกี่ยวกับนักเรียน นักศึกษาที่เป็นผู้ถูกกล่าวหา ซึ่งก็เป็นห่วงอนาคตของเขาเพราะสิ่งที่เขาแถลงคือเขาไม่เห็นด้วยหรือไม่ยอมรับคำวินิจฉัยของศาล
.
“ประเด็นเหล่านี้จะเป็นปัญหาต่อไปในอนาคต เราเองมุ่งหวังว่าความห่วงใยของเราอยากให้ทุกฝ่ายและทุกคนมาช่วยกันคิด ช่วยกันติดตาม ใช้สติปัญญาช่วยกันหาทางออกให้กับประเทศ สร้างพื้นที่ปลอดภัยเหมือนที่พรรคเพื่อไทยกำลังทำอยู่ในขณะนี้ที่ได้ส่งญัตติให้สภาฯพิจารณาตั้งกรรมาธิการวิสามัญเพื่อพิจารณาเรื่องนี้ตามกระบวนการยุติธรรม น่าจะเป็นทางออกได้”นพ.ชลน่าน กล่าว
.
เมื่อถามว่า คำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ จะกระทบกับสิ่งที่พรรคเพื่อไทยดำเนินการอยู่หรือไม่ ที่ประกาศเป็นสะพานเชื่อมแก้ไขกฎหมายมาตรา 116 และมาตรา 112 ในสภาฯ นพ.ชลน่าน ระบุว่า ไม่กระทบ เพราะสิ่งที่พรรคเพื่อไทยได้เสนอญัตติเข้าสภาฯนั้น มาจากข้อเสนอของกลุ่มพลเมืองเพื่อผู้ต้องขังทางการเมืองที่มีวัตถุประสงค์ชัดว่าให้ช่วยเหลือผู้ต้องขังทางการเมืองให้ได้รับสิทธิในการประกันตัว ไม่เกี่ยวกับเรื่องล้มล้างสถาบันใดๆเลย
.
- Advertisement -