นายสมหวัง อัสราษี และนายยศวริศ ชูกล่อม หรือ เจ๋ง ดอกจิก อดีตแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ หรือ นปช. ได้เข้ายื่นใบสมัครเป็นสมาชิกพรรครวมไทยสร้างชาติ โดยมี นายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ เลขาธิการพรรครวมไทยสร้างชาติ เป็นตัวแทนต้อนรับพร้อมสวมเสื้อพรรคให้กับทั้งสองคน
.
นายสมหวัง ระลุถึงเหตุผลที่ตัดสินใจมาร่วมงานกับพรรคว่า ตนได้ตัดสินใจมายื่นใบสมัครเป็นสมาชิก เพราะคิดมานาน ได้เห็นการทำงานและติดตามข่าวของพรรคมาตลอด เห็นว่าพรรคนี้ทำเพื่อประเทศชาติไม่มีอะไรแอบแฝง ซ่อนเร้น ตรงกับอุดมการณ์ของตน ทำให้คิดว่า พรรคนี้ช่างแตกต่างกับที่เคยอยู่มาในอดีต ซึ่งถือว่าเป็นความภูมิใจและยินดีที่เข้ามาเป็นสมาชิกรวมไทยสร้างชาติ รับรองว่าจะให้ความร่วมมือในการทำงาน ถ้ามีโอกาสจะทำให้ดีที่สุด อุดมการณ์ของตนคือ มีหัวใจสามสี คือขาว น้ำเงิน แดง ไม่ว่าจะอยู่ นปช. หรืออะไรก็ตามแต่ก้นบึ้งหัวใจของตนเป็นแบบนี้มาตลอด
.
นายสมหวัง ระบุว่า ในการปราศรัยบนเวทีที่ผ่านมา ยืนยันว่าตนเองไม่เคยแตะต้อง หรือพูดถึงสถาบันฯ เลย ใครจะพูดอะไรก็พูดไป หากไม่อยากฟัง ตนจะเดินหนี แต่วันนี้ที่ได้มาอยู่ตรงนี้ถือเป็นความภาคภูมิใจ วันนี้พร้อมทุกเวลาที่จะลงสมัครในนามพรรคที่ชอบ เห็นการทำงานของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีที่เสียสละแม้ว่าจะเกษียณอายุแล้วแต่ยังอุทิศตัวมาทำงาน ก็อยากจะเดินตามรอยแบบเดียวกับท่านนายกรัฐมนตรี
.
ด้านนายยศวริศ ระบุว่า ที่ผ่านมาตนมีแนวความคิดที่อยู่อีกฟากฝั่งหนึ่งตลอดกว่า 10 ปี จนมาถึงวันนี้เห็นแล้วว่า บ้านเมืองไม่ควรมีความแตกแยกอีกต่อไป ทุกคนต้องหันหน้าเข้ามาสามัคคีกัน ไม่มีแดง ไม่มีเหลือง ไม่มีนกหวีด หรือพันธมิตรฯ และจากที่ตนติดตามพรรครวมไทยสร้างชาติมาตลอด ได้เห็นแล้วว่า พรรครวมไทยสร้างชาติน่าจะได้เป็นพรรคที่จัดตั้งรัฐบาลในครั้งหน้า โดยพิจารณาจากหลายปัจจัยไม่เพียงแต่ดูที่ผู้นำอย่าง พล.อ.ประยุทธ์ ที่เป็นแคนดิเดตนายกฯ คนเดียวเท่านั้นแต่ดูในภาพรวมอื่นๆ โดยเฉพาะพรรคนี้เป็นศูนย์รวมของนักการเมืองที่มีคุณภาพ และเป็นประชาธิปไตย
.
“การเดินหน้าต่อสู้แบบ สู้เพื่อเขา เราติดคุก ที่เคยทำมาแบบเดินเข้าออกคุกหลายรอบ เป็นบทเรียนแล้วว่าไม่ได้ทำให้เกิดประโยชน์อะไรกับผมและครอบครัวเลย สู้เพื่อเขา แต่เวลาอับเฉาเราไร้คนดูแล สำหรับผมเพียงพอแล้ว เมื่อเขาเห็นค่า เขาเห็นมูลค่าผม และชวนมาร่วมงาน ผมก็ยินดีเป็นอย่างยิ่ง”นายยศวริศ กล่าว
.
นายยศวริศ ระบุว่า การมามาสมัครเข้าร่วมงานกับพรรครวมไทยสร้างชาติวันนี้ ก็อาจจะมีทัวร์ลง คงต้องทำที่ไว้จอดรถทัวร์มากๆ แต่อยากอธิบายว่าตนไม่ได้เอาอุดมการณ์มาเป็นเครื่องพันธนาการตัวเอง ต้องจงรักภักดี ต่อพรรคการเมืองฝั่งเดิมอยู่ตลอดเวลา จนขยับไปไหนไม่ได้ การพูดว่า ทรยศ อุดมการณ์เปลี่ยน กินกล้วย เหล่านี้คิดว่าเป็นการกล่าวหากัน แต่คิดว่าทุกอย่างทำได้หมด ขยับขยายได้หมด ไปได้ทุกทิศทุกที่ที่มีประโยชน์ต่อประชาชนและต่อตัวเรา ไม่ใช่ว่าเดินหน้าบ้าอย่างเดียว ลูกเมียจะเดือดร้อน คนข้างหลังเดือดร้อน
.
ก่อนหน้านี้ เมื่อวันที่ 4 ต.ค. 2562 นายสมหวัง เคยโพสต์เปิดใจผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว ระบุ ว่า “ใครไม่โดนกับตัวเองจะไม่รู้ ว่าหนักแค่ไหนแบบเดียวกับผม ผมอยู่ นปช. มีแต่ใจเกินร้อยกับพี่น้อง แต่หารู้ไม่ว่า ตัวเองกำลังมีชะตากรรมที่ต้องแบกรับแทนคนอื่น สามเกลอ (นายวีระกานต์ มุสิกพงศ์ นายจตุพร พรหมพันธุ์ และนายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ) ใช้ผมไปเปิดบัญชี เพื่อรับเงินบริจาค และกิจกรรมอื่นๆ โดยที่พวกเขาไม่ยอมใช้ชื่อตัวเองไปเปิดบัญชีรองรับเงิน เพราะเขารู้ว่าจะถูกสรรพากร ประเมินเสียภาษี
.
“ทั้งหมดนี้ผมโดนสรรพากรเรียกเก็บภาษีจากเงินเหล่านี้ เป็นเงิน 572 ล้าน ผมจะเอาที่ไหนไปจ่าย ก็เลยโดนฟ้องล้มละลาย และตอนนี้โดนอายัดทรัพย์ และอายัดบัญชีทั้งหมดเหลือแต่ตัวแล้วครับ แถมเป็นบุคคลล้มละลายด้วย ไม่สามารถทำอะไรได้เลย … นี่คือ สมหวัง อัสราษี ผมมันโง่เอง รักพวกจนไม่คิดถึงชีวิต และอนาคตตัวเอง บทเรียนที่แสนแพงในชีวิต ฉิบหายทั้งตระกูล เพียงเพราะคำว่าเพื่อน”นายสมหวัง ระบุ
.
ฮือฮา!!2 แกนนำเสื้อแดง พลิกขั้วซบพรรคลุงตู่ เตรียมใจรับทัวร์ลง โอดบทเรียน’สู้เพื่อเขา เราติดคุก’เวลาอับเฉาไร้คนดูแล
- Advertisement -