เมื่อวันที่ 28 ก.พ. 2567 นายสามารถ เจนชัยจิตรวนิช อดีตผู้ช่วยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม กล่าวผ่านรายการสามารถ 5 นาที ช่องทางเฟซบุ๊กสามารถ เจนชัยจิตรวนิช และช่องทาง TikTok: jopstoploss ว่า พรรคก้าวไกลบอกว่าตัวเองกระแสดีมาก นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ สส.บัญชีรายชื่อ และประธานที่ปรึกษาหัวหน้าพรรคก้าวไกล ลงพื้นที่เปิดตัวผู้สมัครนายก อบจ. ภูเก็ต หวังว่าจะชนะที่ภูเก็ต ตนพูดได้เลย ฝันกลางวัน เพราะพรรคก้าวไกลน่าจะถูกยุบก่อนอย่างแน่นอน วันนี้คน กทม.เขาตาสว่างแล้ว เขาไม่เอาพรรคก้าวไกลแล้ว ถ้าพรรคก้าวไกลแน่จริงไปลงสนาม จ.เลย เพราะวันนี้นายก.อบจ เลย เขาลาออกให้แล้ว แต่ตนก็ไม่เห็นคุณพิธาจะไปเหยียบ จ.เลย หรือว่ากลัวจะเลย จึงไม่กล้า
นายสามารถ กล่าวต่อว่า ที่บอกว่าเสียงดีๆ ถ้ายุบพรรคก้าวไกลแล้วกระแสจะโตขึ้น ถล่มทลาย มันไม่จริงหรอก คุณหลอกได้แต่เด็กที่เขาไม่รู้เรื่องเพราะ พรรคก้าวไกลนั้นไม่เคยทำงานที่จะตรวจสอบรัฐบาล ขนาดญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจ ตาม รธน.มาตรา 151 อภิปรายนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีเป็นรายบุคคล ซึ่งถ้าเสียงในการลงมติไม่เกินครึ่งหนึ่ง รัฐบาลต้องลาออก ถ้าย้อนไปเพียงแค่ปี 2550 ในรัฐบาลที่เป็นประชาธิปไตย ไม่เคยมีครั้งไหนที่พรรคฝ่ายค้านไม่อภิปราย ตนกำลังรู้สึกว่า พรรคก้าวไกลกำลังจะทำตัวเป็นพรรคคอมมิวนิสต์หรือไม่ เพราะเห็นจ้องจะล้มล้างการปกครอง จะแก้มาตรา 112 แก้มาตรา 116 คือการที่จะทำให้ประเทศไทยเป็นคอมมิวนิสต์ แต่กลไกที่จะตรวจสอบรัฐบาลแบบประชาธิปไตย ไม่เคยทำแล้ว ไม่คิดจะทำ
“การที่นายปกรณ์วุฒิ อุดมพิพัฒน์สกุล สส.พรรคก้าวไกล ในฐานะประธานวิปฝ่ายค้าน มาบอกว่า อาจจะไม่มีซักฟอกรัฐบาล เหตุรัฐบาลยังไม่ได้ใช้งบฯที่มีอำนาจเต็มในการจัดสรรงบประมาณ ผมขอถามว่า คุณปัญญาอ่อนหรือเปล่า หรือคุณทำไม่เป็น หาข้อมูลไม่เป็น วันนี้ชาวบ้านเขาบ่นกันว่าเศรษฐกิจไม่ดีเต็มไปหมด และกระบวนการยุติธรรมไทยมีปัญหาหรือไม่ ยังมีเรื่องคนที่มีหน้าที่ ไม่ทำหน้าที่ อย่างตำรวจ กลับกลายเป็นว่าเราจะด่าให้คนอื่นทำงาน เราจะด่าเขาได้อย่างไร ในเมื่อ สส.อยู่ในสภาฯ ซึ่งเป็นพรรคฝ่ายค้านยังไม่ทำงานของตัวเองเลย แล้วเราจะไปเรียกร้องให้ใครทำงาน“นายสามารถ กล่าว
นายสามารถ กล่าวต่อว่า ตนจึงมั่นใจว่า ประชาชนที่เคยเลือกพรรคก้าวไกล ตาสว่างแล้ว และไม่คิดจะเลือกอีก ที่บอกว่า กระแสของคุณพิธาโตขึ้นนั้น หลอกได้แต่เด็ก ที่เขาไม่รู้เรื่องการเมือง แล้วก็ไปชักนำชี้ช่องเขา ซึ่งสุดท้าย ก็หลอกเขาได้ครั้งเดียว พรรคก้าวไกลทำหน้าที่ฝ่ายค้านมา 1 หนึ่งปีแบบไม่มีการยื่นอภิปราย จน สว.ต้องมาทำหน้าที่แทน ซึ่งประชาชนเขาก็ตกใจ และตลกกับตัวเองว่า เขาไม่น่าไปเลือก ฉะนั้นการที่คุณพิธาบอกจะปักธงที่ จ.ภูเก็ต ตนมั่นใจว่า ไม่มีทางชนะ และไม่มีทางที่จะมีพรรคก้าวไกลจะอยู่ในสมการในการเลือกตั้งแน่นอน
“วันนี้ สส.พรรคก้าวไกล หลายคนเขาก็บ่นกันว่า สิ่งที่เขาเห็นการจะไปแก้มาตรา 112,116 นั้นมันไม่ใช่เรื่องที่จะทำให้ปากท้องประชาชนดีขึ้น วันนี้นายปกรณ์วุฒิมาสารภาพบาป สะท้อนให้เห็นถึงคำว่า บิ๊กดีลที่ฮ่องกงฉะนั้นผมจึงมั่นใจว่า ถ้าการอภิปรายไม่เกิดขึ้นนั้น มีดีลอย่างแน่นอน คำโบราณสุภาษิตจีนเขาพูดคำว่า ญาติย่อมสำคัญกว่ามิตร ภาษาไทยก็คือ เลือดย่อมข้นกว่าน้ำ จึงไม่แปลกที่นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ประธานคณะก้าวหน้า จะมีนามสกุลเดียวกับคนในรัฐบาลของพรรคเพื่อไทย ไม่แปลกหรอกที่จะไม่อภิปราย วันนี้ประชาชนโดนหลอก โดนต้ม ผมถึงบอกเขาว่า กระบวนการตรวจสอบรัฐบาล กลไกไม่ถูกทำหน้าที่ ก็ต้องฝากประชาชนทำหน้าที่ด้วย”