เมื่อวันที่ 11 ก.ย. 2566 ที่ที่ประชุมอาคารรัฐสภา ในการประชุมร่วมกันของสมาชิกรัฐสภา ครั้งที่ 5 (สมัยสามัญประจำปีครั้งที่ 1) เป็นพิเศษ นางประภาศรี สุฉันทบุตร สมาชิกวุฒิสภา (สว.) ได้ขึ้นอภิปรายตอนหนึ่งว่า สำหรับนโยบายต่างๆ ที่ตนได้อ่านแล้ว ยอมรับว่ายังไม่เห็นนโยบายไหนชัดเจนว่ารัฐบาลจะต่อสู้กับความยากจนและลดความเหลื่อมล้ำในสังคม ตนอยากให้รัฐบาลทำเรื่องนี้ให้เป็นวาระแห่งชาติ
โดย นางประภาศรี ได้กล่าวถึงถึงนโยบายการแจกเงิน ว่า ตนไม่เห็นด้วยมากๆ ไม่ว่ารัฐบาลไหนที่แจกเงินท่านก็จะบอกว่าเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจระยะสั้นๆ แต่ตนคิดว่าท่านกำลังสร้างประชาชนให้ติดนิสัยการรอรับเงิน ยิ่งทำให้ประชาชนอ่อนแอ ตนคิดว่ารัฐบาลดูถูกประชาชน มีแต่โยนเงินให้ ทำให้ประชาชนไม่สามารถสร้างอาชีพ สร้างฐานะความเป็นอยู่ได้ด้วยตัวเอง ตนขอตำหนิเรื่องนี้
นางประภาศรี กล่าวต่อว่า ตนอยากให้นำเงินอันมากมายก้อนนี้ไปสร้างอาชีพ สร้างกิจกรรมระดับเล็กให้กับประชาชน เช่น ค้าขายต่างๆ มาสร้างเงิน สร้างฐานการผลิต เช่นคนค้าขายออนไลน์ สนับสนุนให้ประชาชนสร้างกิจการเป็นของตัวเอง ครอบครัวละ 100,000 บาทก็ทำได้ โดยมีระบบช่วยเหลือดูแลอย่างใกล้ชิด สร้างวินัย สร้างโอกาสให้แต่ละครอบครัวให้มีกิจการที่ยั่งยืน มีศักดิ์มีศรีแห่งความเป็นมนุษย์มากกว่าการรอรับการแจกเงิน
เมื่อเจ้าของกิจการสามารถตั้งตัวได้ใน 1-2 ปี ก็ให้ทยอยคืนเงินรัฐบาล โดยรัฐบาลไม่จำเป็นต้องคิดดอกเบี้ย ตนคิดว่าไม่กี่ปีเขาก็สามารถคืนเงินได้หมด ที่สำคัญที่สุดคือประชาชนจะได้มีกิจการเป็นของตัวเอง ยั่งยืน ไม่ต้องรอรับเงินแจกอีกต่อไป อันนี้เป็นคนละอย่างกับซอฟต์พาวเวอร์