เมื่อวันที่ 14 ธ.ค. 2566 จากกรณี น.ส.เอ (นามสมมติ) อายุ 17 ปี แจ้งความดำเนินคดีกับ น.ต.สมรักษ์ คำสิงห์ อดีตทหารเรือและนักมวยเหรียญทองโอลิมปิก เจ้าของฉายา “โม้อมตะ” ในข้อหากระทำอนาจาร หลังไปเที่ยวที่ผับแห่งหนึ่งในตัวเมืองขอนแก่น ขณะที่ น.ต.สมรักษ์เปิดใจไม่ได้ข่มขืน เจอกันในผับก่อนพาเข้าโรงแรม แต่ไม่ได้ล่วงเกิน รู้ภายหลังเป็นเด็กจึงหยุด พร้อมเดินสายทำบุญและรอหมายเรียกเพื่อให้ปากคำ ขณะที่ตำรวจยืนยันให้ความเป็นธรรมทุกฝ่าย ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น
ความคืบหน้า เมื่อเวลา 13.00 น. วันที่ 13 ธ.ค. พ.ต.อ.ยศวัฒน์ แก้วสืบธัญนิจ ผกก.สภ.เมืองขอนแก่น เปิดเผยความคืบหน้าคดีว่า แพทย์ลงความเห็น น.ส.เอ ผู้เสียหาย สามารถให้ปากคำกับทีมสหวิชาชีพได้แล้ว ทีมสหวิชาชีพและพนักงานสอบสวนร่วมสอบสวน น.ส.เอเรียบร้อยแล้วที่สำนักงานอัยการจังหวัดขอนแก่น ใช้เวลาสอบสวนนานกว่า 4 ชั่วโมง ส่วนรายละเอียดไม่สามารถเปิดเผยได้ จากนี้จะเรียกประชุมคณะพนักงานสอบสวนเพื่อดูคำให้การของ น.ส.เอ เพื่อพิจารณาแจ้งข้อกล่าวหาแก่ผู้ทำความผิด
พ.ต.อ.ยศวัฒน์กล่าวต่อว่า เมื่อได้ข้อกล่าวหาจะออกหมายเรียกผู้ถูกกล่าวหามาสอบสวนและรับทราบข้อกล่าวหา เบื้องต้นพบเข้าข่ายความผิด 3 ข้อหา คือ 1.พรากผู้เยาว์อายุกว่า 15 ปี แต่ยังไม่เกิน 18 ปี ไปเสียจากบิดามารดา ผู้ปกครอง หรือผู้ดูแล เพื่อหากำไร หรือเพื่อการอนาจาร 2.พาผู้อื่นไปเพื่อการอนาจาร โดยใช้อุบายหลอกลวงขู่เข็ญ ใช้กำลังประทุษร้าย ใช้อำนาจครอบงำผิดคลองธรรม หรือใช้วิธีข่มขืนใจด้วยประการอื่นใด และ 3.กระทำอนาจาร ทั้งนี้ ทุกขั้นตอนตำรวจดำเนินการด้วยความโปร่งใสและเป็นธรรมกับทุกฝ่าย คาดว่าน่าจะออกหมายเรียกได้วันที่ 14 ธ.ค.นี้
ด้านแม่ของเด็กหญิงอายุ 17 ปี กล่าวด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ พร้อมระบุว่า ขอโทษที่ดูแลลูกตัวเองไม่ดีพอ ทำให้เกิดเรื่องแบบนี้ เด็กไม่ควรเข้าสถานบันเทิง ต่อไปจะแก้ไข ขณะนี้ยังไม่ได้คุยกับลูกสาวเพราะเข้าข่ายซึมเศร้า อยากเรียกร้องความเป็นธรรมให้ลูก และยืนยันว่าครอบครัวไม่ได้ต้องการรับเงิน ไม่ได้คิดแบล็กเมล์ ครอบครัวไม่ได้รับความหวาดระแวงแต่มีการติดต่อมาแค่รอบเดียว หลังจากนี้จะไม่มีการเจรจา จะดำเนินการถึงที่สุด
พล.ต.อ.สุรเชษฐ์กล่าวว่า กำชับและวางแนวทางการสอบสวนและสั่งการ ผกก.สภ.เมืองขอนแก่น ไปแล้ววันก่อนได้สอบปากคำเบื้องต้นน้องผู้เสียหาย น้องอยู่ในอาการตกใจและกลัว อย่างไรก็ตาม ข้อเท็จจริงคือสองคนอยู่ในห้องเดียวกันถือว่ามีความผิดชัดเจน ผู้เสียหายยืนยันว่ามีการล่วงล้ำยังไม่ถึงขั้นร่วมเพศ ส่วนจะสมัครใจไปเองหรือไม่กฎหมายมีทั้งพาไปกับพรากไป ต้องมาดูว่าเป็นความผิดแบบไหนแต่ถือว่าเป็นความผิดทั้งสิ้นและยืนยันว่าจะทำความจริงให้ปรากฏ
สำหรับคดีความพบว่านักมวยมีความผิดฐานพาไปเพื่อการอนาจาร และรอการสอบปากคำว่าเข้าข่ายฐานข่มขืนหรือไม่ ถ้ารวบรวมพยานหลักฐานได้แล้วจะขอหมายจับ ถ้าศาลให้ออกหมายจับจะจับกุมตามหมาย แต่ถ้าออกหมายเรียกจะเรียกมารับทราบข้อกล่าวหาต่อไป ส่วนที่เกิดเหตุเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานเข้าเก็บหลักฐานหมดแล้ว อยู่ระหว่างรอผลการตรวจสอบโดยเฉพาะสารคัดหลั่ง การสอบปากคำพยานสอดคล้องไปในทิศทางเดียวกัน