นายสมชัย ศรีสุทธิยสกร อดีตคณะกรรมการการเลือกตั้ง(กกต.) โพสต์ข้อความถึงกรณีการร้องเรียนเกี่ยวกับผู้สมัครรับเลือกตั้งผู้ว่าฯกทม.และ ส.ก. ซึ่งรวมถึงนายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ด้วยนั้น โดยระบุว่า ทำได้ คือใบส้ม แต่ต้องคิดให้หนัก พรบ.การเลือกตั้งท้องถิ่น มาตรา 107 ให้อำนาจ กกต.ก่อนการประกาศผล สามารถให้ใบส้ม คือ ให้มีการเลือกตั้งใหม่ และดึงคนผิดออกจากสนามได้เป็นเวลาหนึ่งปี แบบเดียวกับกรณี ให้ใบส้ม นายสุรพล เกียรติไชยากร เขต 8 เชียงใหม่
.
แต่หลังจากให้ใบส้มแล้ว กกต.ต้องส่งศาลอุทธรณ์ ให้ลงโทษอาญา ตัดสิทธิทางการเมือง และ ชดใช้ค่าเสียหายในการจัดการเลือกตั้ง ซึ่งศาลอาจเห็นต่างจาก กกต. โดยยกฟ้อง และอาจตามด้วยการฟ้องกลับในคดีแพ่ง เหมือนคดีใบส้มใบแรกของการเลือกตั้ง ส.ส. ที่ กกต.แพ้คดี ถูกตัดสินให้ชดใช้เงินค่าเสียหายถึง 70 ล้านบาท
.
ดังนั้น จึงไม่ง่ายนัก ที่ กกต.จะชักใบส้ม ยกเว้นว่าเชื่อมั่นในหลักฐานและเชื่อต่อว่าเมื่อส่งศาลแล้ว จะมีคำพิพากษาในทิศทางเดียวกัน โดยความเห็นส่วนตัว ไม่ได้ชี้นำใคร ผมว่า เขาไม่กล้าชักในกรณี ถุงไวนิลที่เป็นข่าวครับ
.
นายสมชัย ยังโพสต์ข้อความด้วยว่า “บ้างเรื่องช้า บางเรื่องพลาด ดูการทำงานของ กกต. ด้วยความเป็นห่วง หลายเรื่องหลักฐานชัดเจน แต่กลับรีรอ หลายเรื่องที่ตัดสิน กลับล้วนเป็นปัญหา เอาเฉพาะพื้นที่จังหวัดสมุทรสาคร กรณีแรก การเลือกตั้งเทศบาลนครสมุทรสาคร คะแนนเป็นหมื่น ชนะกัน 200 กว่าคะแนน มีภาพและคลิปหลักฐานการทุจริต เอาบัตรมากานอกหน่วยชัดเจน เลือกตั้งไปตั้งแต่ 28 มีนาคม 2564 จนบัดนี้เป็นเวลาปีกว่า ยังอยู่ในขั้นการสอบสวนและวินิจฉัยของอนุกรรมการ ไม่ถึง กกต.ใหญ่ ว่าจะชักใบเหลือง หรือใบแดง ส่งศาลอุทธรณ์ภาค เพื่อตัดสิน
.
กรณีที่สอง การเลือกตั้ง อบจ. สมุทรสาคร เมื่อวันที่ 20 ธันวาคม 2563 ผู้ชนะ ชนะขาดกว่า 100,000 คะแนน กกต.ให้ใบเหลืองเนื่องจากผู้สมัครทีมอื่น ไปฝากเด็กเข้าโรงเรียน 1 คน ทำให้ ทีมนายก อบจ.ต้องหยุดปฏิบัติหน้าที่ ต่อมาศาลยกฟ้อง บอกว่า ไม่ผิด ให้กลับไปปฏิบัติหน้าที่ได้ตามเดิม เรื่องชัด ๆ กลับรีรอ แต่เรื่องไม่น่าเป็นเรื่อง กลับตัดสิน แปลกดีครับ
.
- Advertisement -