นายวิชาญ อาฮูยา นักวิชาการอิสระ ระบุว่า จากการลงพื้นที่สถานที่เที่ยวกลางคืน ตลอด 8 เดือนในย่านที่นักท่องเที่ยวมาเที่ยวสถานบันเทิง ทั้ง ถนนข้าวสาร ซอย Cowboy ย่าน นานา หรือ พัฒน์พงศ์ ขอค้านนโยบายที่จะเปิดให้เที่ยวได้ถึงตี 4 ซึ่งคิดว่าดึกเกินไป ตี 3 จะเป็นเวลาที่เหมาะสมมากว่า เพราะบริเวณย่านโซนนิ่งที่กล่าวมานั้น ใกล้กับแหล่งธุรกิจ สถานศึกษา และวัด การเปิดถึงตี 4 จะสร้างปัญหาต่างๆ มามากขึ้น ทั้งในเรื่องสังคม และอาชญากรรม
.
“เมืองควรได้มีเวลาพัก หลัง ตี 3 เพื่อให้มีการทำความสะอาดและผู้คนได้มีการสัญจรน้อยลง ก่อนที่จะเริ่มทำงานกันในวันใหม่ ส่วนตัวจะไปเที่ยวกับกลุ่ม Expat ชาวต่างชาติที่มาทำงานเมืองไทย หรือ เพื่อนต่างชาติที่มาจาก หลายทวีป ก็คุยกันและคิดว่าขยายถึง ตี 3 สำหรับพวกเขาคือเพียงพอ การสร้างเมืองให้น่าอยู่เป็นเรื่องที่สำคัญไม่แพ้การดึงเม็ดเงินเข้าประเทศจากนักท่องเที่ยวต่างชาติ ดังนั้น การเปิด ถึง ตี 3 ในบริเวณโซนเหล่านี้ ถือว่าสมดุลที่สุด”นายวิชาญ กล่าว
.
นายวิชาญ ระบุอีกว่า ทั้งนี้บางท่านอาจจะเห็นแย้งว่า เปิดถึง ตี 4 แค่ อีก 1 ชั่วโมงเพิ่ม ซึ่งในช่วงเวลา ตี 4 กว่าจะออกจากสถานบันเทิง เดินทางกลับ ผู้คนที่เข้ามาในเมืองช่วงเช้า เพื่อไปทำงานหรือ เรียน หนังสือ กำลังเดินทางเข้ามา จะสร้างความวุ่นวายและทำให้บ้านเมืองดูไม่มีความเป็นระเบียบเรียบร้อย ส่วนตัวสนับสนุนเปิดสถานบันเทิงย่าน โซนนิ่ง ถึงแค่ตี 3 จะเหมาะสมมากกว่าขยายไปถึง ตี 4 และเชื่อว่าขยายเพิ่มจากตี 2 ไป ถึง ตี 3 จะสร้างเม็ดเงินได้จำนวนไม่น้อยและช่วยให้เมืองดูน่าอยู่มากกว่า ถ้าจะเปิดถึงตี 4 ในบริเวณนี้
.
‘วิชาญ’ค้าน นโยบายเปิดสถานบันเทิง ย่าน’โซนนิ่ง’ถึงตี 4 มองตี 3 สมดุลที่สุด ชี้เมืองน่าอยู่สำคัญไม่แพ้เม็ดเงินจากการท่องเที่ยว
- Advertisement -