ทำเอาผู้ใช้รถโอดครวญกันเป็นแถว จากราคาน้ำมันในช่วงนี้ที่พุ่งสูงขึ้นทั้งในตลาดโลกและในประเทศไทย ทำให้หลายคนกังวลว่าจะกระทบในส่วนอื่นๆ เพราะน้ำมันเป็นต้นทุนหนึ่งในการผลิตสินค้าและบริการหลายประเภท โดยระหว่างวันที่ 26 พ.ค.-30 ก.ย. 2564 ราคาขายปลีกน้ำมันทั้งในกลุ่มดีเซลและแก๊สโซฮอล์ปรับตัวเพิ่มขึ้นเฉลี่ย 3.20 บาทต่อลิตร โดยปรับขึ้นรวม 14 ครั้ง ปรับลดลง 6 ครั้ง
.
ด้านนายอนุสรณ์ ธรรมใจ อดีตกรรมการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) และอดีตคณบดีคณะเศรษฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยรังสิต ระบุว่า ขณะนี้ราคาน้ำมันตลาดโลกขึ้นไปสูงที่สุดนับตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน พ.ศ. 2557 หรือในรอบเกือบ 7 ปี คาดการณ์แนวโน้มราคาน้ำมันเป็นขาขึ้นไปจนถึงกลางปีหน้าเป็นอย่างน้อย และมีโอกาสที่ราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกโดยเฉพาะราคาน้ำมันดิบเบรนท์ทะเลเหนือปรับตัวทะลุระดับ 100 ดอลลาร์ต่อบาร์เรลได้ในช่วงไตรมาสแรกปีหน้าได้
.
ทั้งนี้ แนวโน้มราคาน้ำมันในตลาดโลกที่ปรับตัวสูงขึ้นต่อเนื่องจะส่งผลกระทบทำให้อัตราเงินเฟ้อปรับตัวสูงขึ้น ต้นทุนภาคการผลิต การขนส่งคมนาคมสูงขึ้น และ ค่าใช้จ่ายครัวเรือนปรับตัวเพิ่มขึ้น การปรับขึ้นของราคาพลังงานเป็นผลจากราคาพลังงานในตลาดโลกเพิ่มขึ้นมาอย่างต่อเนื่องซึ่งคาดว่าช่วงปลายปีราคาน้ำมันน่าจะเคลื่อนไหวอยู่ระหว่าง 75-95 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล และหากเศรษฐกิจโลกยังฟื้นตัวดีต่อเนื่องและกลุ่มโอเปกพลัสยังคงไม่เพิ่มกำลังการผลิตไปมากกว่าเดิมอาจเห็นราคาน้ำมันในตลาดโลกขึ้นแตะ 100 ดอลลาร์ต่อบาร์เรลได้ในช่วงไตรมาสแรกปีหน้า
.
นายอนุสรณ์ ระบุอีกว่า ผลบวกของราคาน้ำมันเพิ่มขึ้นต่อเศรษฐกิจโดยรวมของไทยมีน้อยมากเพราะประเทศไทยเป็นประเทศนำเข้าพลังงานและน้ำมันสุทธิ และนำเข้ามากด้วย ผลประโยชน์จะเกิดต่อธุรกิจอุตสาหกรรมพลังงานเท่านั้น และ อาจมีผลบวกต่อสินค้าที่ใช้ทดแทนกันสำหรับผลิตภัณฑ์ที่ต้องใช้น้ำมันเป็นวัตถุดิบสำคัญ ธุรกิจยางธรรมชาติอาจได้ประโยชน์จากยางสังเคราะห์และผลิตภัณฑ์ปิโตรเคมีที่แพงขึ้น นอกจากนี้มีความเสี่ยงมากขึ้นที่เศรษฐกิจไทยอาจเผชิญภาวะ Stagflation คือ ภาวะเศรษฐกิจชะลอตัว เติบโตต่ำและเงินเฟ้อปรับตัวขึ้นมาก
.
สิ่งที่ประชาชนส่วนใหญ่เผชิญอยู่เวลานี้คือ รายได้ชะลอตัว หนี้สินท่วม ค่าครองชีพสูงขึ้น แถมยังว่างงานอีกหรือทำงานต่ำระดับ ไม่มีความจำเป็นใดๆที่ธนาคารแห่งประเทศไทยต้องเร่งดำเนินการนโยบายเข้มงวดทางการเงินเพิ่มขึ้นหรือปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายจากการเพิ่มขึ้นของอัตราเงินเฟ้อเพราะช่องว่างการผลิต (Output Gap) ของเศรษฐกิจไทยยังติดลบค่อนข้างมาก มีกำลังการผลิตส่วนเกินเหลืออยู่จำนวนมาก
.
- Advertisement -