ชาวไต้หวันเตรียมออกไปใช้สิทธิเลือกตั้งประธานาธิบดีคนใหม่ สืบต่อจาก ‘ไช่ อิงเหวิน’ ที่เป็นประธานาธิบดีมาแล้ว 2 สมัย และหมดสิทธิลงสมัครชิงตำแหน่งผู้นำไต้หวันเป็นสมัยที่ 3 ตามข้อห้ามในรัฐธรรมนูญ
ผู้สมัครตัวเต็งจาก 3 พรรคการเมือง เร่งสปีดหาเสียงกันในช่วงโค้งสุดท้ายก่อนถึงวันเลือกตั้ง ขณะที่ ‘ไล่ ชิงเต๋อ’ จากพรรครัฐบาล DPP ยังคงมีคะแนนนิยมเหนือคู่แข่งคนสำคัญ ‘โหว โหย่วอี๋’ จากพรรคก๊กมินตั๋ง ในขณะที่ ‘เคอ เหวินเจ๋อ’ ผู้สมัครจากพรรค TPP ยังคงมีลุ้นกระแสความนิยมจากคนรุ่นใหม่จะช่วยส่งให้ได้คะแนนเสียงมากขึ้นขนาดไหน
จีนและสหรัฐฯ กำลังเฝ้าจับตาผลการเลือกตั้งที่จะออกมาอย่างใกล้ชิด ขณะที่สื่อยักษ์ใหญ่ อย่าง CNN ชี้การตัดสินใจเลือกของชาวไต้หวันจะสั่นสะเทือนไปไกลนอกพรมแดน และผลเลือกตั้งประธานาธิบดีที่ออกมาจะเป็นบททดสอบจีนกับสหรัฐฯ ว่าจะจัดการสถานการณ์ที่เกิดขึ้นในไต้หวันต่อไปอย่างไร
ชาวไต้หวันซึ่งมีสิทธิเลือกตั้ง ประมาณ 19.5 ล้านคน จากจำนวนประชากรทั้งหมดกว่า 23 ล้านคน เตรียมออกไปเลือกตั้งประธานาธิบดีคนใหม่และสมาชิกรัฐสภาชุดใหม่ในวันเสาร์ที่ 13 มกราคม 2024
นอกจากนี้ สื่อจีนและคำพูดของเจ้าหน้าที่เกี่ยวกับการแทรกแซงจากต่างประเทศในกระบวนการทางการเมืองของไต้หวัน เกิดขึ้นท่ามกลางรายงานจำนวนมากในสื่อตะวันตกและสื่อไต้หวันที่สนับสนุน DPP และโดยเจ้าหน้าที่สหรัฐฯ อ้างว่าจีนแทรกแซงในการลงคะแนนเสียงที่กำลังจะมีขึ้น “เราขอเรียกร้องให้ปักกิ่งยุติแรงกดดันทางทหาร การทูต และเศรษฐกิจต่อไต้หวัน ซึ่งโดยพื้นฐานแล้วขัดแย้งกับเป้าหมายแห่งสันติภาพและเสถียรภาพ” โฆษกกระทรวงการต่างประเทศบอกกับสื่อที่ได้รับทุนสนับสนุนจากรัฐของสหรัฐฯ เมื่อวันจันทร์
ไต้หวันห้ามมิให้ตีพิมพ์ผลสำรวจการเลือกตั้งจนกระทั่งหลังการเลือกตั้งระหว่างการหาเสียงเลือกตั้งครั้งสุดท้าย โดยการสำรวจครั้งสุดท้ายครั้งหนึ่งซึ่งจัดขึ้นระหว่างวันที่ ๓๑ ธันวาคม – ๑ มกราคมแสดงให้เห็นว่าวิลเลียม ไลของ DPP เป็นผู้นำด้วยคะแนนร้อยละ 38.9 เทียบกับพรรคชาตินิยมที่เป็นมิตรกับจีนมากกว่า (ก๊กมินตั๋ง หรือ เคเอ็มที) และผู้สมัครนายกเทศมนตรีเมืองไทเป โหว หยูอิห์ KMTซึ่งได้รับคะแนนสนับสนุนร้อยละ 35.8 โค เหวินเจ จากพรรคประชาชนไต้หวันTPP ซึ่งสนับสนุนความสัมพันธ์ที่ดีขึ้นกับปักกิ่งแต่ก็มีส่วนร่วมกับแพลตฟอร์มในประเทศของ DPP มาก กำลังตามมาเป็นอันดับสามด้วยคะแนน สนับสนุน 22.4 เปอร์เซ็นต์ตามการสำรวจ