น.ส.รัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ในการประชุม ศบค. วันที่ 27 ส.ค.นี้ ที่ประชุมจะพิจารณาผ่อนคลายมาตรการเพื่อเปิดให้ร้านอาหารบริการประชาชนได้แล้วหรือไม่ เนื่องจากผู้ประกอบการร้านอาหารอยากให้มีการผ่อนคลาย คือ เปิดให้บริการได้ 50 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งทาง ศบค.รับฟังข้อคิดเห็นดังกล่าว ประกอบกับขณะนี้จำนวนผู้ติดเชื้อในแต่ละวันมีจำนวนน้อยลง น้อยกว่า 2 หมื่นรายมา 2-3 วันแล้ว ซึ่งในส่วนร้านอาหารที่คาดว่าจะเปิดบริการได้ แต่ยังไม่เปิดฟรีทั้งหมด
.
นอกจากนี้ยังมีมาตรการที่ผู้ประกอบการจะต้องปฏิบัติอื่นๆ ตามมาด้วย เช่น การเว้นระยะห่าง เพื่อไม่ให้เกิดการแออัด อากาศจะต้องถ่ายเทได้ดีพนักงานจะต้องปลอดโรค ได้รับวัคซีน 2 เข็มหรือหากยังไม่ได้รับวัคซีนจะต้องมีการตรวจคัดกรองด้วยชุด ATK ทุก 3 หรือ 7 วัน และผู้มารับบริการจะต้องแสดงหลักฐานว่าได้รับการฉีดวัคซีนมาแล้ว เป็นต้น โดยต้องติดตามรายละเอียดจากผลการประชุม ศบค.อีกครั้ง
.
ขณะที่น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ระบุว่า กระทรวงสาธารณสุขจะเสนอมาตรการผ่อนคลายล็อกดาวน์ต่อที่ประชุมศบค.เพิ่มเติม เช่น การอนุญาตเดินทางข้ามจังหวัดในพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด หรือจังหวัดพื้นที่สีแดงเข้ม รวมถึงปรับมาตรการในห้างสรรพสินค้า ศูนย์การค้า คอมมูนิตี้มอลล์ โดยอนุญาตให้เปิดกิจการกิจกรรมบางประเภท เช่น ร้านเสริมสวย ร้านนวดฝ่าเท้า การปรับใช้อาคารสถานศึกษาและการเปิดใช้สนามกีฬา ทั้งนี้ทุกมาตรการจะต้องปฏิบัติตามมาตรการสาธารณสุข DMHTTA อย่างเคร่งครัด
.
ทั้งนี้พื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด พื้นที่เฝ้าระวัง ยังไม่อนุญาตให้เปิด สถานบริการ สถานบันเทิง และสถานบริการอื่นที่มีลักษณะคล้ายกัน นอกจากนี้ในส่วนของการเปิดประเทศคณะกรรมการโรคติดต่อแห่งชาติมีมติการเปิดประเทศอย่างปลอดภัย เปิดในบางพื้นที่ตามความพร้อม เช่น ประชาชนต้องฉีดวัคซีนครบจนมีภูมิคุ้มกันหมู่ รวมถึงการตรวจ CCRT การปฏิบัติตามมาตรการการป้องกันการติดเชื้อแบบครอบจักรวาล (Universal Prevention) เพื่อเตรียมการในช่วงเปลี่ยนผ่านโรคโควิดกลายเป็นโรคประจำถิ่น
.
- Advertisement -