จากกรณีแพทย์หญิงรายหนึ่งร้องขอความเป็นธรรม ถูกชายชาวต่างชาติทำร้าย เพราะไปนั่งชมจันทร์ที่บันไดวิลล่าริมหาดในภูเก็ต แถมเมียของชายคนดังกล่าวยังข่มขู่ว่า ยิงตายก็ไม่ผิด เพราะมีลูกเป็นตำรวจ และรู้จักนายตำรวจยศใหญ่
ต่อมา ชายต่างชาติพร้อมทนายความชี้แจง โดยยืนยันว่าไม่ได้เตะหมอ แต่เป็นอุบัติเหตุ สะดุดบันไดล้ม จนทำให้เท้าไปโดนหลัง ไม่มีเจตนาเตะหรือทำร้าย ขอโทษหากหมอได้รับบาดเจ็บหรือรู้สึกแย่ เสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ไม่คิดว่าจะเป็นเรื่องใหญ่โต
วานนี้ (29 ก.พ. 67) แพทย์หญิงได้เข้าให้ปากคำกรณีฝรั่งเตะหลังบาดเจ็บ กับ พงส.สภ.ถลาง และให้สัมภาษณ์ว่า หมอไม่ควรที่จะมาถูกกระทำเช่นนี้ และก็ไม่ควรที่จะมีคนไทยคนใดถูกกระทำเช่นนี้ หรือมาเจอเรื่องแบบหมออีก ซึ่งหมอขอยืนยันเต็มที่จะดำเนินคดีตามกฎหมายให้ถึงที่สุด ส่วนกรณีกังวลหรือไม่ที่ชาวต่างชาติจะแจ้งความ พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฯ กรณีที่พ่อของหมอไปโพสต์ผ่านโซเชียล โดยมีชื่อของชาวต่างชาติอยู่ในใบแจ้งความนั้น ทุกอย่างมันคือความจริง ถ้าเขาจะฟ้องก็ว่ากันไปตามกฎหมาย ส่วนกรณีที่ชาวต่างชาติกล่าวอ้างว่าลื่น หรือสะดุดล้ม และมีเพื่อนเป็นพยานนั้น หมออยากถามกลับไปว่า ถ้าคุณลื่นล้ม แล้วคุณจะทำอย่างไรต่อ ก็ต้องขอโทษใช่ปะ
พญ.ธารดาว กล่าวเพิ่มเติมกรณีถูกคู่กรณีเหยียดนั้น หมอมองว่าไม่ควรมีการเหยียด ไม่ว่าคนไทยคนนั้นจะเป็นใคร อีกอย่างคุณเป็นชาวต่างชาติที่มาอยู่ในประเทศไทย มาหากินกับคนไทย เปิดธุรกิจต่างๆ ในผืนแผ่นดินไทย คุณควรอยู่ร่วมกันอย่างสงบสุข
จากนั้น พ.ต.อ.ภารกร สนธิกุล รอง ผบก.ภ.จว.ภูเก็ต กล่าวว่า ตามขั้นตอนก็จะมีการออกหมายเรียกเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมต่อไป ทางพนักงานสอบสวนไม่มีความกังวลใดๆ เพราะทางผู้เสียหายได้นำใบชันสูตรบาดแผลจากแพทย์ รพ.ดีบุก มาประกอบคำให้การ ความหนักเบาของข้อหาอยู่ที่ลักษณะบาดแผล และจำนวนวันการรักษาที่แพทย์ลงความเห็นไว้
โดยเรื่องนี้ พล.ต.ต.สินเลิศ สุขุม ผบก.ภ.จว.ภูเก็ต และผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต ให้ความสนใจในเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะ ผวจ.ภูเก็ต ได้มีการตั้งคณะกรรมการตรวจสอบเกี่ยวกับพฤติกรรม หรือความประพฤติของชาวต่างชาติที่เข้ามาใน จ.ภูเก็ต ผ่านคณะกรรมการ โดยมีด่านตรวจคนเข้าเมืองภูเก็ตเป็นเลขานุการ ที่ผ่านมามีชาวต่างชาติบางคนประพฤติตนไม่เหมาะสม โดยจะนำมาเข้าคณะกรรมการชุดนี้ ซึ่งถ้าเข้าข่ายจะมีการเสนอเพิกถอนหนังสือเดินทางอย่างเด็ดขาด และในส่วนการทำงานของตำรวจนั้น อยากให้ทุกคนเชื่อมั่นกระบวนการการสอบสวนซึ่งให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย รอง ผบก.จว.ภูเก็ต กล่าวย้ำ
ด้าน นายไพโรจน์ ศรีละมุล นายอำเภอถลาง จ.ภูเก็ต พร้อมด้วยเจ้าพนักงานที่ดินจังหวัดภูเก็ต อำเภอถลาง และนายปัณยา สำเภารัตน์ นายกเทศมนตรีเทศบาลตำบลป่าคลอก นำเจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบแนวเขตที่ดิน บริเวณวิลล่าที่เกิดเหตุ ต.ป่าคลอก อ.ถลาง
จากการตรวจสอบพบว่า เจ้าของวิลล่าเคยนำชี้ขอออกโฉนด ซึ่งปัจจุบันยังคงเป็น นส.3 ก. โดยแนวที่นำชี้คือ ขั้นบันไดที่ 1 ดังนั้นขั้นบันไดลงมา 2-4 เป็นการรุกล้ำที่ดินสาธารณะบริเวณแนวชายหาดทรายสาธารณะ จึงมอบหมายนายกเทศบาลตำบลป่าคลอก เข้าแจ้งความดำเนินคดีบุกรุกตามกฎหมาย และดำเนินการรื้อถอน