แฟนเพจคุยถึงแก่น โพสต์เมื่อวันที่ 18 เม.ย. 66 ถึงค่าไฟที่เป็นประเด็นร้อนในสังคมว่า จากกรณีที่ค่าไฟฟ้าเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยก่อนหน้านี้หลายฝ่ายได้ตั้งข้อสังเกตว่า ค่าไฟฟ้ามีราคาสูงขึ้นนั้น ส่วนหนึ่งมากจากแผนพัฒนากำลังการผลิตไฟฟ้า หรือ PDP ของรัฐบาล รวมไปถึงการรับซื้อไฟฟ้าจากผู้ผลิตไฟฟ้าอิสระ (Independent Power Producer : IPP) มากจนเกินไปอีกด้วย
.
แต่จะว่าไปแล้ว เรื่องการให้สัมปทานโรงไฟฟ้าให้เอกชนรายใหญ่หรือการรับซื้อไฟฟ้านั้น เป็นผลสืบเนื่องมาตั้งแต่รัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร แล้ว
.
โดยก่อนหน้านี้ พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ได้เคยชี้แจงในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร เมื่อปี 2564 ว่า ก่อนที่ตนเองจะเข้าดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี รัฐบาลก่อนหน้านั้นได้มีการอนุมัติด้านพลังงานไป โดยทำสัญญาซื้อไฟฟ้าจากเอกชนรายใหญ่ไปแล้วกว่า 5,000 เมกะวัตต์
.
แม้ในภายหลัง เมื่อเข้าดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ได้เร่งแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นจากรัฐบาลก่อนหน้า โดยมีการปรึกษาฝ่ายกฎหมาย พบว่าไม่สามารถทำอะไรได้เลย เพราะเป็นสัญญาที่รัฐบาลก่อนหน้านั้นทำไว้ ซึ่งยกเลิกไม่ได้ ตนเองจึงเข้าไปดำเนินการยกเลิกไม่ได้
.
สำหรับประเด็นที่ พลเอกประยุทธ์ หยิบยกขึ้นมาชี้แจงนั้น มาจากการที่รัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ได้อนุมัติทิ้งทวนให้ การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) ลงนามสัญญาซื้อไฟฟ้าจากก๊าซธรรมชาติจากบริษัท กัลฟ์ เอ็นเนอร์จี ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) จำนวน 5,000 เมกะวัตต์ ส่งผลให้แผนการผลิตไฟฟ้าของประเทศไทยนั้นล้นเกินการสำรองไปอย่างมหาศาล จนทำให้รัฐบาลพลเอกประยุทธ์ ขาดความชอบธรรมที่จะสร้างโรงไฟฟ้าถ่านหินเพิ่มเติมไปอีก 10 ปี
.
แน่นอนว่า ภาระต้นทุนด้านพลังงานที่เพิ่มสูงขึ้น อันเป็นสาเหตุสำคัญที่ทำประชาชนต้องเผชิญกับค่าไฟฟ้าที่แพงขึ้นทุกปี การจะไปโทษรัฐบาลพลเอกประยุทธ์บริหารนโยบายด้านพลังงานผิดพลาด อาจจะไม่ใช่เรื่องที่ถูกต้อง และไม่ยุติธรรมกับรัฐบาลนี้นัก
- Advertisement -
