เมื่อวันที่ 19 เม.ย.2566 ที่พรรคประชาธิปัตย์ นายพิสิฐ ลี้อาธรรม ประธานคณะกรรมการนโยบายพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.), นายเกียรติ สิทธีอมร ประธานคณะกรรมการต่างประเทศ ปชป., นายอลงกรณ์ พลบุตร และนายสามารถ ราชพลสิทธิ์ อดีตรองผู้ว่าฯ กทม. ผู้เชี่ยวชาญด้านคมนาคมขนส่งโครงสร้างพื้นฐาน และโครงการขนาดใหญ่ แถลงนโยบายหาเสียงด้านพลังงาน
นายเกียรติแถลงว่า นโยบายของพรรคด้านพลังงานหลักๆ จะเป็นการปรับโครงสร้างราคาพลังงาน โดยน้ำมันเราจะกำกับค่าการกลั่นไม่เกิน 1 บาทต่อลิตร ค่าการตลาดไม่เกิน 1.5 บาทต่อลิตร ทบทวนโครงสร้างราคาและภาษีให้สะท้อนต้นทุนที่แท้จริงและเป็นธรรม ทบทวนเงินเข้ากองทุน ส่วนก๊าซธรรมชาตินั้น จะต้องเฉลี่ยต้นทุนระหว่างนำเข้ากับแหล่งในประเทศให้สะท้อนต้นทุนที่จริงและเป็นธรรม ปฏิรูปสูตรคำนวณและวิธีการกำกับดูแลใหม่ และทบทวนสัญญาระยะยาวที่เอาเปรียบและไม่เป็นธรรม
นายเกียรติ กล่าวอีกว่า สำหรับไฟฟ้านั้น พรรคจะปรับราคาก๊าซป้อนโรงไฟฟ้าให้สะท้อนต้นทุนที่แท้จริงและเป็นธรรม กำหนดสัดส่วนกำลังการผลิตระหว่างรัฐกับเอกชนให้เหมาะสม ซึ่งขณะนี้เรามีกำลังการผลิตสำรองถึง 50% ถือว่ามีจำนวนมาก ที่สำคัญต้องมีการทบทวนความจำเป็นการมีค่าความผันแปร หรือค่า FT โดยค่าดังกล่าวในโลกนี้มีใกล้เคียงอยู่เพียง 3-4 ประเทศเท่านั้น เราจึงต้องการยกเลิกและมีวิธีอื่นที่ดีกว่า แต่ทั้งนี้จะทำได้ก็ต่อเมื่อพรรค ปชป.เป็นแกนนำในการจัดตั้งรัฐบาล หรือกำกับกระทรวงพลังงานอย่างจริงจัง นอกจากนี้ พรรคยังจะทนทวบสูตรคำนวณราคาก๊าซหุงต้ม ทบทวนค่าการตลาดของปั๊มก๊าซแอลเอ็นจี แอลพีจี
ด้านนายอลงกรณ์ กล่าวในช่วงท้ายว่า พรรคจะทำนโยบายพลังงานทดแทนเป็นวาระแห่งชาติ กำหนดสัดส่วนพลังงานทดแทน 30% ในปี 2030 ส่งเสริมพลังงานไฟฟ้าจากพลังงานทดแทน เช่น ชีวภาพ ชีวมวล พลังงานลม และอื่นๆ รวมถึงสนับสนุนประชาชน เอกชนร่วมผลิตไฟฟ้าโซล่าเซลล์ โซล่ารูฟท็อป เป็นต้น