เมื่อวันที่ 2 พ.ค.66 ที่รอยัล พารากอนฮอลล์ ชั้น 5 ศูนย์การค้า สยามพารากอน เขตปทุมวัน กรุงเทพฯ มติชนxเดลินิวส์ ร่วมจัดดีเบตเป็นครั้งแรกในเวที “สงคราม 9 พรรค THE LAST WAR” โดยยกทัพพรรคการเมืองชั้นนำครั้งยิ่งใหญ่ ทั้งขุนพลเลือดใหม่ (Young blood) ขุนศึกตัวตึง-ตัวเก๋า และแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี เข้าร่วมประชันนโยบายเพื่อนับถอยหลังเข้าสู่โค้งสุดท้ายของการเลือกตั้ง
ในตอนหนึ่ง บนเวที “ขุนศึก ประจัญบาน” นายพุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ หรือ บี ผู้อำนวยการการเลือกตั้ง กทม.พรรคภูมิใจไทย กล่าวว่า ตอบคำถามด้านสังคมที่ว่า “ยาบ้าถูกกว่าก๋วยเตี๋ยว พรรคจะจัดการปัญหายาเสพติดอย่างไร ?”
นายพุทธิพงษ์กล่าวว่า การแก้ไขไม่ต่างกันมาก ตนแบ่งเป็น 3 มิติ คือ 1.มิติการบังคับใช้กฎหมาย ไม่มีใครที่เดินไปบอกว่าอย่าขายยาบ้า แล้วเชื่อ ทำไมตำรวจ ผู้บังคับใช้กฎหมาย ถึงไม่ไปบังคับใช้จริง 2.ทำไมทุกครั้งที่มีการจับยาบ้า หรือยาเสพติดได้ จะต้องมีเจ้าหน้าที่ หรือตำรวจเข้าไปรู้เห็น เป็นใจ และร่วมมืออยู่ด้วยทุกครั้ง
“นี่คือสิ่งที่ไม่มีใครกล้าพูดจริง เพราะถ้าพูด อันตรายกับครอบครัว แต่ผมเชื่อว่าโอกาสที่เรามาพูดคุยในที่สาธารณะตรงนี้ พูดได้ เมื่อเข้าไปเป็นรัฐบาล ก็ต้องทำให้ได้ ฉะนั้นในมิติของกฎหมายมีความจำเป็น ทั้งในเรื่องกฎหมาย ที่เคร่งครัดขึ้น ผู้บังคับใช้กฎหมาย และต้องลงโทษเจ้าหน้าที่รัฐที่เกี่ยวพันกับยาเสพติด
มิติที่ 2 ด้านสังคม ถามยาเสพติดเกลื่อน ทำอย่างไร ก็ต้องไปดูในโรงเรียน ในครอบครัว ดูแลเรื่องนี้อย่างไร และที่สำคัญไม่มีใครคิดถึงการดูแลบำบัดผู้ที่พลาดไปแล้วติดยา
บางทีเข้าไป 1 วัน 5 วัน หนีออกมาแล้ว ยาบ้าจะหมดไปได้อย่างไร เรพาะคนที่เสพ ก็วิ่งหาซื้อตลอดเวลา จึงต้องแก้ไขมิติสุดท้าย 3 เศรษฐกิจ เมื่อไหร่ที่เศรษฐกิจมีปัญหา ประชาชนตกงาน เดือดร้อน เขาก็ไปติดหาเงินด้านอื่นที่ไม่ถูกกฎหมาย ไปเดินยา
นายพุทธิพงษ์ กล่าวทิ้งท้ายว่า ส่วนของพรรคภูมิใจไทย เราไม่ได้ต่อต้านแค่ยาบ้า กัญชาเราก็ไม่เอา
“วันนี้มีโอกาสจะได้พูด ไม่ต้องถาม ผมบอกเลย ภูมิใจไทย เราไม่เอากัญชาเสรี เราเอากัญชาเฉพาะการแพทย์เท่านั้นแล้วยาบ้า ยาเสพติดทุกชนิด ภูมิใจไทยยืนหยัด ใครอยากจะมาต่อสู้กับเรา ยินดี เรายืนหยัดไม่เอายาเสพติดทุกชนิด และเราเชื่อว่า กระบวนการยุติธรรมจะสามารถทำให้ยาเสพติดหมดจากประเทศนี้ได้ แต่การบังคับใช้ กฎหมาย ต่อเข้มแข็ง”
ต่อมาในประเด็นคำถามการเมือง คือ “เห็นด้วยหรือไม่กับข้อเรียกร้อง และการเห็นต่างของ แบม ตะวัน มีแนวทางในเรื่องนี้อย่างไร”
นายพุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ หรือ บี ผู้อำนวยการการเลือกตั้ง กทม.พรรคภูมิใจไทย กล่าวว่า ก่อนอื่นที่เราจะพูดถึงข้อเรียกร้องของตะวันและแบม แทนที่จะถามเห็นด้วยไม่เห็นด้วย ดีกว่าไหมถ้ามาคิดกันว่า การบริหารจัดการความเห็นต่าง ทำอย่างไร ไม่ใช่ผลักดันคนที่เห็นต่างไปเป็นศัตรู
นายพุทธิพงษ์กล่าวว่า เรื่องที่ 2.ต้องมองข้อเรียกร้องของน้องๆ คืออะไร
“ถ้าผมจำไม่ผิด อย่างที่ 1 เขาเรียกร้องให้มีการปฏิรูปกระบวนการยุติธรรม 2.ยุติการดำเนินคดีต่อน้องๆ และคณะ 3.ยกเลิกมาตรา 112
ใน 2 เรื่องหลัง ผมขออนุญาตยกไว้ก่อน เพราะพูดไม่ทันใน 2 นาที แต่คิดว่าเป็นหลักการ กลับมาที่การปฏิรูปกระบวนการยุติธรรม ผมเชื่อว่ากระบวนการยุติธรรมมีความจำเป็นต้องแก้ไขในบางเรื่อง เช่น การบังคับใช้กฎหมาย วันนี้หลายๆคนพูดว่า โดนรังแก ก็ต้องไปถามว่า ใครรังแกรังแกแบบไหน แล้วก็ต้องดำเนินการ เราต้องยอมรับว่าท่านอยู่ฝ่ายค้าน ท่านต่อต้าน วันนึงถ้าท่านกลับมาเป็นรัฐบาล ก็จะมีคนคิดต่างเหมือนกัน ต้องบริหารจัดการเรื่องนี้ให้ได้ เพื่อประเทศจะเดินหน้าต่อไปได้”
นายพุทธิพงษ์กล่าวว่า ประการที่ 2.มุมมองของรัฐบาลก็สำคัญ การเป็นผู้นำ ต้องเปิดพื้นที่ให้พี่น้องประชาชนแสดงความเห็นต่างและดูต้นเหตุด้วยว่า สาเหตุที่ออกมาเรียกร้องเรื่องอะไร
“อย่างที่เขาบอกว่าโดนดำเนินคดี ก็ต้องถามว่า ต้นเหตุคืออะไร เหมือนกับ เขียนป้ายติดไว้ว่า ‘ห้ามเดินไป จะลงเหว’ แต่ปรากฏว่าตัดสินใจลงไปแล้ว ถามว่าเราจะถมเหวหรอ ไม่ได้ เราต้องเปิดพื้นที่ เพราะฉะนั้น ผู้นำต้องทำให้เป็นตัวอย่าง
วันนี้เรามาดีเบต กระบวนการเลือกตั้งมีแล้ว ถามว่าวันนี้เรามาดีเบต เห็นต่างกัน ทำไมยืนคู่กันได้ ไม่ทะเลาะกันหรอ นี่คือความสวยงามของประชาธิปไตย เราต้องเอาแบบนี้มาใช้” นายพุทธิพงษ์กล่าว
นายพุทธิพงษ์ กล่าวต่อว่า ตนว่าจะไม่พูด แต่วันนี้คงต้องพูด เรื่อง ม.112 ตนพูดแต่แรกว่า คนเราทุกคนมีกฎหมายคุ้มครอง ไม่มีประเทศไหนหรอก หรือแทบนับไม่ได้ ที่ไม่มีกฎหมายคุ้มครองประมุขของประเทศ คิดว่าประเทศนี้ควรจะมี
“กลับไปที่คำถามว่า ที่ว่าน้องสองคน โดนดำเนินคดี ก็ต้องไปดูว่าเขาก้าวข้ามเกินไปไหม กฎหมายเป็นอย่างไร โดนรังแกใช่ไหม ก็ต้องสู้ไปตามกระบวนการยุติธรรม แต่ผมเชื่อว่า ถ้าอยู่ในกรอบ ไม่ได้มีเจตนาก้าวล่วง สู้ด้วยการเลือกตั้ง ก็ไม่มีหตุผล ไม่มีความจำเป็นที่ต้องแก้ เราก็อยู่ของเรา ปัญหาปากท้องเยอะแยะ ทำไมต้องเอาเรื่องนี้มาเป็นเงื่อนไข เพราะเราบอกว่า ประมุขอยู่เหนือการเมืองไม่ใช่หรือ” นายพุทธิพงษ์กล่าว