AnyMind Group ผู้ให้บริการแพลตฟอร์มที่ช่วยส่งเสริมธุรกิจครบทุกขั้นตอน (End-to-end Commerce Enablement Platform) สำหรับแบรนด์ อินฟลูเอนเซอร์ และนักการตลาด เผย รายงานภาพรวมการตลาดอินฟลูเอนเซอร์ (Influencer Marketing) ของประเทศไทยปี 2564 ซึ่งเป็นรายงานเจาะลึกข้อมูลเกี่ยวกับการตลาดอินฟลูเอนเซอร์ตั้งแต่ ประเภทคอนเทนต์ยอดนิยมของอินฟลูเอนเซอร์ไทย สัดส่วนของอินฟลูเอนเซอร์ในแต่ละแพลตฟอร์ม จำนวนแคมเปญการตลาดที่เกิดขึ้นในแต่ละแพลตฟอร์ม ตลอดจนค่าเฉลี่ยความมีส่วนร่วมของผู้ใช้งานในแต่ละแพลตฟอร์ม โดยข้อมูลทั้งหมดอ้างอิงจาก AnyTag แพลตฟอร์มสำหรับการตลาดอินฟลูเอนเซอร์ และรายงาน State of Influence in Asia 2021 ของ AnyMind Groupที่ได้รวบรวมข้อมูลการตลาดอินฟลูเอนเซอร์ทั่วเอเชีย
.
สำหรับคอนเทนต์ 5 อันดับยอดนิยมของอินฟลูเอนเซอร์ไทย เมื่อนำข้อมูลของอินฟลูเอนเซอร์กว่าสามหมื่นคนใน AnyTag มาแยกประเภทตามคอนเทนต์ พบว่า 5 อันดับแรกของคอนเทนต์ยอดนิยมอินฟลูเอนเซอร์ไทย คือ แฟชั่นและบิ้วตี้ ศิลปะและความบันเทิง(ไลฟ์สไตล์) อาหารและเครื่องดื่ม ท่องเที่ยว และเกม เรียงตามลำดับ ซึ่งเมื่อเปรียบเทียบกับปี 2563 มีการเปลี่ยนแปลงคอนเทนต์ประเภทท่องเที่ยวซึ่งเคยอยู่ในสามอันดับแรกกลับตกลงมาอยู่อันดับที่สี่แทน เนื่องมาจากข้อจำกัดด้านการเดินทางทั้งในและต่างประเทศของปีที่ผ่านมา โดยจำนวนคอนเทนต์แต่ละประเภทของอินฟลูเอนเซอร์นั้นอาจมีความเกี่ยวเนื่องกับความต้องการของผู้บริโภคในปัจจุบันด้วย
.
ทั้งนี้การใช้แพลตฟอร์มโซเชียลให้เหมาะกับแต่ละกลุ่มเป้าหมาย เนื่องจากคอนเทนต์แต่ละหมวดหมู่แปรผันต่างกันในแต่ละแพลตฟอร์ม เช่น บน YouTube มีอินฟลูเอนเซอร์ที่สร้างคอนเทนต์ด้าน ศิลปะและความบันเทิง(ไลฟ์สไตล์) สูงที่สุดถึง 40.9% ขณะที่คอนเทนต์ด้านบิ้วตี้ซึ่งมีความนิยมสูงสุดในไทย กลับมีอัตราใช้งานโดยอินฟลูเอนเซอร์บน YouTube เพียง 18.03% เนื่องจากผู้บริโภคนิยมรับชมความบันเทิงในรูปแบบวีดิโอผ่าน YouTube มากกว่าหมวดหมู่อื่น
.
Instagram มีส่วนร่วมกับผู้ใช้งานมากที่สุดในแคมเปญการตลาดอินฟลูเอนเซอร์ ถึงแม้ YouTube ยังคงเป็นแพลตฟอร์มที่อินฟลูเอนเซอร์ไทยนิยมใช้งานมากที่สุดในอัตราส่วนถึง 36.6% ในขณะที่ Instagram และ Facebook มีอัตราการใช้งานที่ไล่เลี่ยกันอยู่ที่ 28.9% และ 28.2% ตามลำดับ ขณะที่ Twitter มีอัตราการใช้งานอยู่เพียง 6.4% แต่ในการทำการตลาดอินฟลูเอนเซอร์บนแต่ละแพลตฟอร์มนั้น พบว่า Instagram ได้รับผลตอบรับ (engagement) จากผู้ชมมากที่สุดเมื่อเทียบกับอีก 4 โซเชียลมีเดียแพลตฟอร์มหลัก ขณะที่ Facebook สามารถสร้างการรับรู้ (awareness) ในวงกว้างได้มากที่สุด ส่วน Twitter ที่ถึงแม้จะมีตัวเลขผู้ใช้งานน้อยแต่สามารถเข้าถึงผู้ชมเฉพาะกลุ่มและสร้างปฏิสัมพันธ์กับผู้ใช้งานได้ดีที่สุด
.
- Advertisement -