เมื่อวันที่ 22 ส.ค. 2567 มีรายงานว่า ศ.นพ.ยง ภู่วรวรรณ หัวหน้าศูนย์เชี่ยวชาญเฉพาะทางด้านไวรัสวิทยาคลินิก ภาควิชากุมารเวชศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ได้โพสต์ข้อความเรื่อง การระบาดของโรคฝีดาษวานร Mpox
ระบุว่า ในราวปีนี้ พ.ศ. 2546 เกิดการระบาดในอเมริกา เป็นการนำเข้าหนูจากแอฟริกา เพื่อเป็นสัตว์เลี้ยง คือ Giant Gambian Rat หนูที่นำเข้ามีเชื้อ Mpox ได้แพร่กระจายเข้าสู่ แพรี่ด็อก เป็นสัตว์ตระกูลฟันแทะ และหลังจากนั้นก็ระบาดเข้าสู่คน และมีการติดต่อระหว่างคนสู่คน จึงเกิดการระบาดขึ้น การระบาดสามารถควบคุมได้
หลังจากนั้นก็มีพบในคนประปราย ส่วนใหญ่ถ้าเป็นการระบาดเป็นกลุ่มก้อนจะพบในแอฟริกา นอกแอฟริกา ส่วนใหญ่จะพบเป็นรายราย และมีการติดโรคมาจากสัตว์ในตระกูลฟันแทะ หรือตระกูลหนู
ในปี พ.ศ. 2565 พบมีการระบาดออกนอกทวีปแอฟริกา โดยเริ่มจากสเปน หลังเทศกาล Prime Festival และได้กระจายไปทั่วโลกร่วมร้อยประเทศ มีผู้ป่วยมากกว่า 1 แสนราย ส่วนใหญ่ร้อยละ 97-98 จะเป็นในผู้ใหญ่ เพศชาย อายุตั้งแต่วัยหนุ่มถึงวัยกลางคน เป็นการสัมผัสกันอย่างใกล้ชิด หรือมีเพศสัมพันธ์ โดยเฉพาะในกลุ่มของ ชายรักชาย
โรคนี้ส่วนใหญ่ไม่รุนแรง นับตั้งแต่ที่มีการระบาดนอกแอฟริกา มากกว่า 2 ปีที่ผ่านมา จนถึงปัจจุบัน มีผู้ป่วยร่วมแสนราย และมีการเสียชีวิตประมาณ 200 ราย ดังนั้นในภาพรวมโรคนี้ไม่รุนแรง มีอัตราการเสียชีวิตที่ต่ำ หรือประมาณ 0.2% หรือ 1 ใน 500 ราย ไวรัสพบว่าเป็น กลุ่ม 2 Clade 2b
สำหรับประเทศไทย นับตั้งแต่เริ่มมีการระบาดจนถึงปัจจุบัน มีผู้ป่วยมากกว่า 800 ราย เป็น เพศชาย 97.5% และส่วนใหญ่ไม่รุนแรง
ปีนี้ 2567 เกิดการระบาดใหญ่ในทวีปแอฟริกา เช่น คองโก บุรุนดี เคนยา รวันดา มากกว่า 15,000 ราย และมีการเสียชีวิต มากถึงร้อยละ 3.4 (537 ราย จาก 15,600 ราย) มีการเสียชีวิตในเด็ก และผู้ที่มีภูมิคุ้มกันบกพร่อง ตรวจไวรัสพบว่าเป็น กลุ่ม 1 Clade 1b
ซึ่งแตกต่างกับการระบาดก่อนหน้านี้ในประเทศนอกแอฟริกา จึงทำให้เกิดความกังวลว่า โรคนี้จะระบาดออกไปทั่วโลก การติดต่อของโรคจะไม่เหมือนกับช่วงที่ผ่านมา ที่ระบาดนอกแอฟริกา และพบได้ทั้งเพศชายและหญิง มีความรุนแรงมากกว่ามาก
“หมอยง” ยังได้โพสต์ถึงเรื่อง ฝีดาษวานร MPOX การแบ่งแยกชนิดสายพันธุ์ของฝีดาษวานร Mpox โดยระบุว่า ในปัจจุบันจากการถอดรหัส DNA จะแยกฝีดาษวานร เป็น 2 กลุ่ม (Clade) คือกลุ่มหนึ่ง และกลุ่ม 2
สายพันธุ์ที่ระบาดในแอฟริกาส่วนใหญ่จะเป็นกลุ่มที่ 1 และการระบาดนอกแอฟริกาส่วนใหญ่ จะเป็นกลุ่มที่ 2 ทั้งกลุ่ม 1 และกลุ่ม 2 ยังแยกเป็นกลุ่มย่อย a และ b การระบาดนอกแอฟริกาจะเป็นสายพันธุ์กลุ่ม 2b
เมื่อเร็วๆ นี้ มีการระบาดพบผู้ป่วยจำนวนมาก ในสาธารณรัฐประชาธิปไตยคองโก มีผู้ป่วยที่ต้องสงสัย และยืนยันถึงปัจจุบันร่วม 20,000 รายแล้ว และมีผู้เสียชีวิต อยู่ในอัตราถึงร้อยละ 3 ถึง 4 สายพันธุ์ที่พบเป็นสายพันธุ์กลุ่ม 1b
แสดงให้เห็นว่าสายพันธุ์นี้ สามารถติดต่อกันได้ง่าย และมีความรุนแรงสูง พบกว่าครึ่งหนึ่งเป็นเด็ก และผู้ที่เสียชีวิตส่วนใหญ่ ก็เป็นเด็กที่มีร่างกายอ่อนแอ จึงทำให้ต้องเฝ้าระวังและเกิดความกังวล องค์การอนามัยโลกจึงประกาศเป็นภาวะฉุกเฉินโรคระหว่างประเทศ ที่น่ากังวล และต้องเฝ้าระวัง
ฝีดาษวานร เชื้อสายพันธุ์ใหม่ 1b ระบาดในแอฟริกา ที่สร้างความกังวลและต้องเฝ้าระวัง หลังจากระบาดในสาธารณรัฐประชาธิปไตยคองโก โรคนี้ได้แพร่กระจายในแอฟริการ่วม 10 ประเทศ การติดต่อของโรคจะแตกต่างกับสายพันธุ์ 2b ที่ระบาดนอกแอฟริกา
สายพันธุ์ 1b แพร่กระจายและติดต่อได้ง่าย จึงพบได้ในเด็ก และเพศหญิง ไม่เหมือนกับสายพันธุ์ 2b ที่ติดต่อได้ยากกว่า ส่วนใหญ่จะพบในเพศชาย วัยหนุ่มถึงกลางคน โดยการสัมผัสอย่างใกล้ชิด หรือมีเพศสัมพันธ์กับผู้ป่วย
…..
ขอบคุณที่มา เฟซบุ๊ก Yong Poovorawan
#Thepoint #Newsthepoint
#ฝีดาษวานร #ฝีดาษลิง
#หมอยง