หน้าแรกสังคม'ดร.อบรม' เคาะไอเดีย 'บ้านฉาง' สู่ 'สมาร์ทซิตี้' เพิ่มประสิทธิภาพระบบนิเวศทางธุรกิจ-คุณภาพชีวิต ผ่านดิจิทัล มั่นใจเมืองเกิดรายได้และโมเดลธุรกิจที่ยั่งยืน

‘ดร.อบรม’ เคาะไอเดีย ‘บ้านฉาง’ สู่ ‘สมาร์ทซิตี้’ เพิ่มประสิทธิภาพระบบนิเวศทางธุรกิจ-คุณภาพชีวิต ผ่านดิจิทัล มั่นใจเมืองเกิดรายได้และโมเดลธุรกิจที่ยั่งยืน

ดร.อบรม อรัญพฤกษ์ ที่ปรึกษาสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวจังหวัดระยอง ระบุถึงหัวข้อ Smart city Banchang บ้านฉาง สมาร์ทซิต้กับกลยุทธ์ใหม่ที่้ต้องปรับเปลี่ยนครั้งสำคัญ ว่า


“สมาร์ทซิติ้กับกลยุทธ์ใหม่
ที่ต้องปรับเปลี่ยนครั้งสำคัญ”

ปัญหาสำคัญในขณะนี้ คือ เราไม่มี City Data Platform เรามีแต่การเก็บข้อมูลในเซิร์ฟเวอร์ (Server) ขาดการประยุกต์ใช้เพื่อให้ชุมชนหรือภาครัฐหรือผู้มีส่วนได้เสียได้ประโยชน์ผลลัพธ์ที่ว่านี้ยังมีน้อยเกินไป ทำให้ระบบนิเวศทางธุรกิจที่ยั่งยืนในพื้นที่เป้าหมายจึงเป็นอุปสรรคและขาดการมีส่วนร่วมจากทุกภาคส่วนในการสร้างองค์ความรู้ทางด้านดิจิทัลเทคโนโลยีร่วมกัน

จากที่กล่าวมา เมืองจะต้องมี City Data Platform เพื่อเก็บข้อมูล สร้างนโยบายในการเก็บข้อมูล นำข้อมูลขนาดใหญ่มาใช้ให้เกิดประโยชน์กับเมืองเกิดระบบนิเวศทางธุรกิจสร้างรายได้และนำไปสู่ความยั่งยืนด้วยการพัฒนาคุณภาพชีวิตของคนในเมืองผ่านดิจิทัลเทคโนโลยี

City Data Platform คือ ต้นแบบแพลตฟอร์มข้อมูลระดับเมือง โดยมีการจัดการข้อมูลมาวิเคราะห์ ได้ทำการจัดทำระบบข้อมูลของเมือง ข้อมูลพื้นฐานในเมือง และข้อมูลเชิงลึกและแบ่งชั้นของการทำงานออกเป็น 3 ขั้นตอนคือ 1. การเชื่อมต่อข้อมูล 2.การรวบรวมข้อมูล 3.การนำข้อมูลมาวิเคราะห์

ข้อมูลที่เราควรรวบรวมของเมือง เช่น ข้อมูล การท่องเที่ยว ความปลอดภัยและสิ่งแวดล้อม สภาพอากาศ ข้อมูลสุขภาพโดยภาพรวม สินค้าเกษตรปลอดสารพิษ สินค้าชุมชน ร้านอาหาร ที่พัก โดยนำข้อมูลที่ได้มาวิเคราะห์ แล้วนำไปใช้ในการวางแผน บริหารจัดการ และ แก้ไขปัญหาของเมือง เพื่อเกิดประโยชน์ต่อประชาชนในเมืองนั้น

City Data Platform ต้องรองรับการพัฒนาบริการภายในเมือง เพื่อทำให้เกิดรายได้และเกิดโมเดลทางธุรกิจที่ยั่งยืน ดังนั้นถ้าปัจจุบันเรามีแค่ เซิร์ฟเวอร์ ในการเก็บข้อมูล หน่วยงานภาครัฐและภาคธุรกิจในเมืองนั้นไม่สามารถมาใช้งานได้ ก็จะทำให้เกิดรายจ่ายต่อเนื่องในการจัดเก็บข้อมูลแต่ไม่ได้นำเอาข้อมูลมาสร้างรายได้

แนวทางสำคัญในการสร้าง City Data Ecosystems คือ ต้องเริ่มต้นด้วยการให้ความรู้ แก่ผู้มีส่วนได้เสียในพื้นที่
เช่น เกษตรกร SMEs โรงพยาบาล หน่วยงานภาครัฐ ภาคธุรกิจต่างๆ สนับสนุนหรือจับคู่กับผู้ให้บริการ ผู้เชี่ยวชาญ นักพัฒนา Startup Developer ได้เข้ามาสร้างบริการต่างๆใน City Data Platform โดยมีช่องทางการบริการลูกค้าผ่าน Smart Phone โดยมีการบริการ ด้วยระบบอินเตอร์เน็ตและสัญญาณ 5G ในการสนับสนุนการใช้งานให้เกิดประโยชน์ต่อคนในพื้นที่

ในขณะเดียวกันปัจจุบันการติดตั้งอุปกรณ์ IoTs เพื่อควบคุมการทำงานอัตโนมัติ และการวิเคราะห์ข้อมูลขนาดใหญ่ (Big data) แบบ Real time ด้วยเทคโนโลยี AI บนระบบ Cloud ซึ่งทั้งหมดปัจจุบันใช้ Public Cloud ในอนาคตจะส่งผลให้ความต้องการใช้พื้นที่เก็บข้อมูลมีแนวโน้มขยายตัวโดยนั่นหมายความว่า Data Center และ City Data Platform มีความสำคัญสูงสุด

ดังนั้นการพัฒนาคุณภาพบริการและนำเสนอผลิตภัณฑ์บริการใหม่ ๆ อย่างต่อเนื่องควบคู่ไปกับการรักษาคุณภาพศูนย์ Data center ถือเป็นความท้าทายสำคัญ โดยบริการที่ลูกค้าส่วนใหญ่ให้ความสำคัญ ได้แก่ ระบบเชื่อมโยงเครือข่าย ระบบรักษาความปลอดภัยข้อมูล ระบบแจ้งเตือนการทำงานอุปกรณ์และสภาพแวดล้อมภายใน Data center เป็นต้น

การเข้าใจธุรกิจท้องถิ่นยังคงเป็นข้อได้เปรียบของผู้ให้บริการไทยในการเข้าถึงลูกค้าโดยเฉพาะกลุ่มผู้ประกอบการ SMEs ท้องถิ่น รวมถึงบริการที่สามารถเชื่อมโยงกับระบบภาครัฐได้

ดังนั้นต้องกลับไปที่จุดเริ่มต้นสำคัญ
ของบ้านฉางสมาร์ทซิติ้ คือ การให้ความรู้กับหน่วยงานภาครัฐและธุรกิจที่อยู่ภายในพื้นที่ เพื่อที่จะได้รู้ปัญหาที่แท้จริงและช่วยกันออกแบบสถาปัตยกรรมทางด้านเทคโนโลยีในการตอบโจทย์เพื่อเพิ่มคุณภาพชีวิตของคนในท้องถิ่นสร้างระบบนิเวศทางธุรกิจด้วยเทคโนโลยีดิจิทัลอย่างยั่งยืน มาช่วยกันครับ

ดร.อบรม อรัญพฤกษ์
คณะกรรมการขับเคลื่อนระยองเมืองอัจฉริยะ
26-06-2023

Thepoint #Newsthepoint #สมาร์ทซิตี้ #บ้านฉาง #ดรอบรม #ระยอง #โมเดลธุรกิจ

Must Read

Related News

- Advertisement -