ดร.สมเกียรติ โอสถสภา อดีตอาจารย์ประจำคณะเศรษฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว ระบุว่า เมื่อประเทศไทยเกิดวิกฤติเศรษฐกิจปี 2540 ประเทศไทยต้องการเงินกู้มาดำรงเป็นทุนสำรองระหว่างประเทศที่ธนาคารแห่งประเทศไทย เพื่อ หนึ่ง สร้างความเชื่อมั่นในค่าเงินบาท สอง สร้างความเชื่อถือแก่ประเทศ ธุรกิจที่เราต้องนำเข้า ส่งออก เพื่อจะเชื่อมั่นว่าเราสามารถชำระหนี้ในการซื้อขายระหว่างประเทศได้ ถ้าคนไม่เชื่อจะนำเข้าไม่ได้ แม้แต่น้ำมัน นับวันได้เลย
.
สาม เพื่อสร้างความมั่นใจแก่เจ้าหนี้ต่างประเทศ ซื่งไทยมีหนี้ต่างประเทศสูงถืง 109 ล้านเหรียญ เป็นหนี้ระยะสั้น 65% คือเรียกคืนได้ทันที ไม่ยอมให้กู้ต่อให้ชะลอการเรียกหนี้คืน สี่ เพื่อลดความตื่นตระหนกมิให้คนไทย ต่างชาติหอบเงินออกนอกประเทศ จนหมดความเชื่อมั่นในเศรษฐกิจไทย ถ้าหยุดไม่อยู่จะเกิดปัญหาสี่ข้อพันกันเป็นงูกินหาง ที่จริงประเทศไทยตั้งเป้าว่าหากกู้ยืมมาได้สัก 35 พันล้านเหรียญ จึงเอาอยู่ แต่หามาได้เพียง 17.2 พันล้านเหรียญ
.
แหล่งเงินได้มาจาก IMF 4 พันล้านเหรียญ ญี่ปุ่น 4 พันล้านเหรียญ จีน 1 พันล้านเหรียญ ฮ่องกง 1 พันล้านเหรียญ อินโดนิเซีย 500 ล้านเหรียญ เกาหลี 500 ล้านเหรียญ มาเลเซีย 1 พันล้านเหรียญ สิงคโปร์ 1พัน ล้านเหรียญ บรูไน 500 ล้านเหรียญ ธนาคารโลก 1500 ล้านเหรียญ ธนาคารพัฒนาเอเซีย 1200 ล้านเหรียญ การกู้จากIMF ธนาคารโลก ธนาคารพัฒนาเอเซียเป็นไปตามสิทธิของประเทศสมาชิก
.
อเมริกา ยุโรปไม่ช่วยแม้แต่สลึงเดียว แต่อเมริกาบอกว่าจะไปบอกไอเอ็มเอฟให้ปล่อยกู้ให้ รีบตั้งกองทุนมาซื้อทรัพย์สิน หุ้นบริษัท ราคาถูกได้กำไรมากมาย ก็ได้พวกเอเซียตัวขาว ตัวดำนี่แหละที่กระตือรือร้นมาช่วยกัน จนตอนหลังมีการตั้งกองทุนการเงินเอเชียขื้น เรียกว่า chiangmai initiative ช่วงนั้นเกิดวิกฤติเม็กซิโก อเมริกาเทเงินไปช่วยดันสำรองทันที 56 พันล้านเหรียญ
เอามาเล่าให้ฟังว่าในยามยากลำบาก ประเทศจะล้มละลายใครช่วย ประเทศไทยบ้าง ไม่ต้องอายที่จะจดจำ วันหนึ่งเราอาจช่วยเขาได้เป็นการตอบแทน
.
เอามาเล่าให้ฟัง เพื่อบอกว่าใครไม่ช่วยไทยบ้าง พันธมิตรก็เถอะ และเพื่อบอกว่าการบริหารเศรษฐกิจไม่ใช่เรื่องเอามัน เอาดัง ทั้งหนี้ประชาชน หนี้นอกระบบ หนี้สถาบันการเงินภาครัฐ หนี้รัฐวิสาหกิจ การขาดดุลการค้า ดุลบัญชีเดินสะพัด ดุลการคลัง เกิดขื้นนานติดต่อกับประเทศและประชาชนจะมีปัญหา ไม่น่าเชื่อว่าประเทศไทยรอดมาได้ด้วยการเบิกเงินกู้มาตั้งสำรองไว้เพียง 13 พันล้านเหรียญเท่านั้น ไม่ได้เอาไปใช้อะไร ใช้เวลาสองปีก็เอาอยู่ แต่ต้องแลกมาด้วยชีวิต ทรัพย์สิน การพังทลายของธุรกิจจำนวนมาก อย่าให้มันเกิดขื้นอีก
อะไเวอร์ๆ มองด้านเดียว อย่าทำ
.
คุณ ธารินทร์ นิมมานเหมินทร์ คือ วัรบุรุษ ตัวจริง ที่ควรยกย่องใช้เวลาแค่สองปี ธปท ทำงานหนักมากยุควิกฤติ กำจัดฟองสบู่ มีเงินพอเพียงใช้หนี้เงินกู้หัวดำเอเซียทั้งหมด งานยาก และเหนื่อย คนแห่ไปช่วยกันเยอะมาก ยามคนทุกข์ยากก็ดนด่าเป็นธรรมดา ดร พิสิฐ ลี้อาธรรม เป็นรัฐมนตรี ช่วยคลัง ทำได้เยี่ยม ไม่พูดเยอะ นี่คือสายคลัง ท่องเที่ยวพาณิชย์ช่วยกันขนเงินเข้าประเทศ ผมเดินไปมาหลายหน่วย มีตำแหน่งกรรมการร้อยชุดได้ จำไม่ได้ว่าทำอะไรบ้าง แต่เหนื่อยมาก
.

ThePOINT #ข่าวเศรษฐกิจ #สมเกียรติโอสถสภา #วิกฤตเศรษฐกิจปี2540 #วิกฤตต้มยำกุ้ง #ทุนสำรองระหว่างประเทศ #ธนาคารแห่งประเทศไทย