กำลังเป็นประเด็นภายหลังจากที่เว็บไซต์ Catdumb ได้รายงานข่าวในหัวข้อ “สนธิพูดถึงกระแส #แบนลูกหนัง ยกเทียบกับ “ลิซ่า” มีคุณวุฒิสูงกว่า เรียนด้วยฝึกด้วย” โดยเป็นระบุว่า นายสนธิ ลิ้มทองกุล ผู้ก่อตั้งสื่อในเครือผู้จัดการ จัดรายการคุยทุกเรื่องกับสนธิ กรณีที่มีกระแส “แบนลูกหนัง” ซึ่งเป็นกรณีที่กลุ่มผู้สนับสนุนม็อบราษฎร หรือม็อบสามนิ้ว และนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ต่างพากันบอยคอต ลูกหนัง-ศีตลา วงษ์กระจ่าง ลูกสาวของ ตั้ว-ศรัณยู วงษ์กระจ่าง เตรียมเดบิวต์เป็นเกิร์ลกรุ๊ปเกาหลีวง “H1-KEY”ประเทศเกาหลีใต้ แต่ถูกขุดเริ่องราวที่บิดาผู้ล่วงลับเคลื่อนไหวการเมืองในอดีต
.
โดยข่าวจากเว็บไซต์ Catdumb ระบุว่า “ทางเพจ คุยทุกเรื่องกับสนธิ ดำเนินรายการโดย สนธิ ลิ้มทองกุล ก็ได้กล่าวถึงกระแส #แบนลูกหนัง ด้วยเช่นกัน พร้อมกับระบุว่า เป็นเรื่องต่ำตมของคนต่ำช้า ในช่วงเนื้อหาที่กล่าวถึงกระแสดังกล่าว เขาเอ่ยถึงประวัติความเป็นมาของลูกหนัง สามารถสอบเข้าคณะอักษรศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยได้ จนฝั่งพ่อศรัณยูมาบอกตนว่าลาออกจากคณะอักษรศาสตร์จุฬาฯ ไปเรียนที่เกาหลีใต้แทน สนธิได้พูดถึงตอนที่ลูกหนังได้เป็นเด็กฝึก ยกว่าเหมือนกับ ลิซ่า BLACKPINK ไม่มีผิด เพียงแต่มีคุณวุฒิที่สูงกว่า เน้นว่าเธอมาจาก ‘อักษรศาสตร์จุฬาฯ ปี 1’ ความเคี่ยวกรำในการฝึกยังไม่ถึงระดับลิซ่า แต่ก็ยังฝึกหนักมาอย่างน้อยมาเป็นเวลา 6-7 ปี โดยที่ไม่หยุด ทั้งเรียนไปด้วยฝึกไปด้วย จนเรียนจบก็ไปคัดเลือกเพื่อเข้าสังกัดค่ายเพลง”
.
นอกจากนี้เว็บไซต์ Catdumb ได้หยิบยกวีดีโอคลิปจากผู้ใช้ทวิตเตอร์ “หอมแดง” หรือ @pphfamm ซึ่งมีพฤติกรรมปั่นแฮชแท็ก #แบนลูกหนัง อย่างต่อเนื่อง ตัดต่อคลิปของนายสนธิบางช่วงบางตอน พร้อมระบุข้อความว่า “เธอมีคุณวุฒิสูงกว่าลิซ่า เพราะเธอมาจากอักษรฯ จุฬา” ซึ่งเป็นข้อความที่บิดเบือน เพราะสิ่งที่นายสนธิกล่าวถึงไม่ได้มีเจตนาเช่นนั้น โดยเฉพาะการกล่าวพาดพิงถึง ลิซ่า ลลิสา มโนบาล หนึ่งในสมาชิกวงแบล็คพิงค์
.
ทั้งนี้เมื่อกลายเป็นประเด็น จึงมีการไปย้อนชมรายการ”คุยทุกเรื่องกับสนธิ” ที่ออกอากาศเมื่อเช้าวันที่ 3 ธ.ค. จะพบว่าในตอนหนึ่ง นายสนธิ กล่าวว่า ผมรู้จักหลานผมคนนี้ดี ลูกหนัง เห็นตั้งแต่ยังตัวน้อยๆ เป็นเด็กที่เรียนหนังสือเก่งมาก พูดได้ 4 ภาษา ไทย อังกฤษ เกาหลี และจีน ผมยังจำได้เลยท่านผู้ชมครับ สมัยที่เค้าจบ ม.ปลายโรงเรียนอินเตอร์แล้วพ่อมาถามผมว่า พี่สนธิ ถ้าจะไปเรียนจีน ไปเรียนที่ไหนดี ยังปรึกษาหารือกัน ผมก็แนะนำให้ไปเรียนที่เซี่ยงไฮ้ ในขณะนั้น แต่ในที่สุดลูกหนังก็สอบเข้าจุฬาฯ ได้ อยู่คณะอักษรศาสตร์ ท่านผู้ชมครับ คณะอักษรศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ปี 1 แล้วมีอยู่วันหนึ่ง จู่ๆ ตั้ว ศรัณยู วงษ์กระจ่าง เข้ามาบอกว่า พี่ครับ ลูกหนังมันไม่เรียนแล้ว มันลาออกจากจุฬาฯ แล้วมันตัดสินใจไปเรียนที่เกาหลี
.
นายสนธิ ระบุด้วยว่า ปีนี้ลูกหนังอายุ 24 ปี เขามีความมุ่งมั่นตั้งแต่เด็กแล้ว ตามพ่อเขา เพราะว่าเขาได้เลือดพ่อเข้ามาแรงมาก เขาต้องการเป็นศิลปินป๊อบ แล้วทุกคนทั้งพ่อทั้งแม่ให้การสนับสนุนเต็มที่นะฮะ ลูกหนังนี่ทักษะในการร้องเพลงแล้วเขาเต้นแร็ป ร้องแร็ปในระดับสูง นอกจากนั้นยังแต่งเพลงได้ ในที่สุดเธอออกจากคณะอักษาศาสตร์ จุฬาฯ ซึ่งเป็นคณะที่เด็กหลายคนใฝ่ฝันที่จะเรียนเป็นอย่างมาก เพราะการสอบเข้าก็สอบเข้ายากมาก เธอเดินทางไปเรียนที่มหาวิทยาลัยอีฮวา ซึ่งเป็นมหาวิทยาลัยผู้หญิง แล้วเธอไป แล้วก็ไปฝึกเป็นเด็กเทรนนี่ของค่ายไลออนฮาร์ท หัวใจสิงห์
.
“เธอฝึกมานานเป็นเวลาหลายปี เหมือนลิซ่าไม่มีผิด เป็นเพียงแต่ว่าเธอมีคุณวุฒิที่สูงกว่าลิซ่า ตรงที่ว่าเธอมาจากอักษรศาสตร์ จุฬาฯ ปี 1 แต่ความเคี่ยวกรำในการฝึกเธอยังสู้ลิซ่าไม่ได้ แต่อย่างน้อยเธอก็ฝึกหนักเป็นเวลา 6-7 ปี โดยที่ไม่หยุดเลยทั้งเรียนด้วยทั้งฝึกด้วย”นายสนธิ ระบุ
เมื่อพิจารณาจากสิ่งที่นายสนธิพูดทั้งประโยคดังกล่าว ไม่ใช่ตัดเฉพาะบางช่วงบางตอน จะเห็นได้ชัดว่า นายสนธิไม่ได้มีเจตนาที่จะกล่าวหาว่า ลูกหนังมีคุณวุฒิสูงกว่าลิซ่า เพราะมาจากอักษรศาสตร์ฯ จุฬา ตามที่ผู้ใช้ทวิตเตอร์ @pphfamm และเว็บไซต์ Catdumb กล่าวหาแต่อย่างใด เพราะในท้ายที่สุด สิ่งที่กล่าวมาข้างต้น สาระสำคัญก็คือ ทั้งลิซ่าและลูกหนังต่างก็ผ่านการฝึกอย่างหนักเพื่อที่จะได้เป็นศิลปินเค-ป๊อปเช่นเดียวกัน
.
นอกจากนี้ หากใครได้ชมรายการคุยทุกเรื่องกับสนธิในช่วงที่ผ่านมา จะพบว่า นายสนธิกล่าวชื่นชม ลิซ่า ลลิสา มาโดยตลอด เฉกเช่นรายการ EP 103 ซึ่งออกอากาศไปเมื่อวันที่ 17 ก.ย. 2564 ที่ผ่านมา นายสนธิ กล่าวชื่นชมลิซ่าว่า เป็นตัวอย่างของเด็กคนหนึ่งที่เดินเข้าไปสู่ความฝันด้วยตัวเอง เด็กตัวน้อยๆ จากบุรีรัมย์ ไปโด่งดังที่เกาหลีใต้ ก้าวไกลไปเป็นไอดอลของคนทั่วโลก
.
นายสนธิ ระบุในรายการครั้งนั้นด้วยว่า “กว่าเธอจะกลายเป็นลิซ่า ในวันนี้ สิ่งที่ลิซ่า มี และทุกคนต้องรู้และจำเอาไว้ คือมุมานะ ตั้งใจ ไม่ย่อท้อ และมีการทุ่มเทเสียสละของครอบครัวในวัย 14 ปี เมื่อสิบปีก่อน ได้รับเลือกเป็นศิลปินฝึกหัด เป็นเด็กไทยคนแรกและคนเดียวที่ได้เดบิวต์ในค่ายยักษ์ใหญ่อย่างเช่น YG Entertainment ฝึกซ้อมในค่ายวันละ 16 ชั่วโมง ตลอด 5 ปีในค่าย แข่งขันกับคนเก่งๆ ที่ถูกคัดเลือกมาหลายร้อยคนเพื่อขึ้นมาแถวหน้าให้ได้ ในที่สุดเธอก็เลยได้เป็นสมาชิก 1 ใน 4 ของวง BLACKPINK นอกจากนี้ ลิซ่ายังเป็นคนที่ไม่เคยลืมกำพืดตัวเอง ถึงแม้จะโด่งดังขนาดไหน แต่ก็ยังคิดถึงลูกชิ้นปิ้งที่สถานีรถไฟบุรีรัมย์”
.