เมื่อวันที่ 14 ก.พ. 2567 นายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ สส. พรรครวมไทยสร้างชาติ เสนอญัตติด่วนด้วยวาจา เรื่อง ให้รัฐบาลเร่งรัดดำเนินการกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องบังคับใช้กฎหมาย ทบทวนระเบียบ แผนและมาตรการการถวายความปลอดภัยขบวนเสด็จให้เหมาะสม ทันสมัย มีการฝึกซ้อม และประชาสัมพันธ์สื่อสารกับประชาชนเพื่อเป็นการถวายความปลอดภัยให้สมพระเกียรติ และรักษาไว้ซึ่งสถาบันหลักของชาติ โดยย้ำ การบังคับใช้กฎหมายอย่างจริงจัง ไม่ใช่ล่าแม่มด แต่เพื่อความสงบเรียบร้อย ย้ำไม่มีอะไรเหนือกฏหมาย
อย่างไรก็ตามบรรยากาศการประชุมเริ่มตึงเครียดขึ้นเรื่อยในช่วงที่นายปดิพัทธ์ สันติภาดา ทำหน้าที่ประธานการประชุม ปล่อยให้ นายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร สส. ก้าวไกล อภิปรายโยงไปถึงการแก้ ม.112 มีการย้ำถึงการบังคับใช้กฎหมายที่ต้องมีความเสมอภาค ไม่ใช่นำไปเล่นงานฝ่ายหนึ่งฝ่ายใด และต้องมีพื้นที่ปลอดภัย ในการพูดเรื่องสถาบัน ชี้“ความรุนแรงแก้ไขความรุนแรงไม่ได้ ทุกความขัดแย้งในโลกวันนี้ ล้วนแก้ไขด้วยการพูดคุยและพยายามเข้าใจกัน และในที่สุดก็จะเกิดทางออก ที่ให้ทุกฝ่ายเห็นพ้องต้องกันอย่างสันติ”
ซึ่ง สส.พรรครวมไทยสร้างชาติ ได้ลุกขึ้นประท้วงอย่างต่อเนื่องว่า พูดนอกประเด็น
ทั้งนี้ อุณหภูมิร้อนถึงขั้นสุดเมื่อ นายรังสิมันต์ โรม สส. ก้าวไกล อภิปราย เปิดภาพนายชาดา ไทยเศรษฐ์ รมช.มท. สส อุทัยธานี พรรคภูมิใจไทย ที่ถ่ายรูปกับกลุ่มปกป้องสถาบัน ทำให้นายชาดา ลุกขึ้นชี้หน้า ระบุ นายปดิพัทธ์ ปฏิบัติหน้าที่บกพร่อง และไม่เป็นกลาง ปล่อยให้อภิปรายพูดเกี่ยวเรื่องม. 112 ได้อย่างไร และให้เอารูปบุคคลใดมาสร้างให้เกิดความเข้าใจผิด เป็นการกระทำที่ไม่เหมาะสม ประธานฯ (นายปดิพัทธ์) ต้องมาขอโทษตน สวนกลับทีอย่างนี้ไม่บอกว่า ก้าวไกลอภิปรายนอกประเด็น กี่ครั้งแล้ว ที่เด็กทำผิดกฎหมาย หัวใจคนไทย
“ทำอย่างนี้เลวทราม อย่ามาพูดดูดีแต่ปฏิบัติไม่ดี เดี๋ยวผมจะลุกขึ้นโต้ทุกคนที่มาพูด อย่ามาขัดแย้งกับผม อย่ามาทำในสิ่งที่ไม่ถูกต้อง อย่ามาเล่นใต้ดินกับผม และเรียกร้องไม่ให้คนอื่นเล่นใต้ดิน ประธานฯต้องตอบว่า ว่าใครเป็นคนอนุญาต มีวิจารณญาณ? มีสมอง? เลว” นายชาดา ระบุ
