จากกรณีที่ นาย ศุภณัฐ มีนชัยนันท์ สส.กทม.พรรคก้าวไกล โพสต์ข้อความเฟซบุ๊ก ขยายความจากที่เพจ ชมรมSTRONGต้านทุจริตประเทศไทย โพสต์ข้อความระบุว่า กรุงเทพมหานคร (กทม.) จัดซื้อเครื่องออกกำลังกาย แพงกว่าราคาตลาด สูงเกือบ 10 เท่า ลู่วิ่งไฟฟ้า ตัวละ 759,000 บาท และจักรยานตัวละ 484,000 บาท
โดย แบงค์ ศุภณัฐ ระบุว่า “กทม. จัดซื้อเครื่องออกกำลังกาย แพงกว่าราคาตลาด สูงเกือบ 10 เท่า ลู่วิ่งไฟฟ้า ตัวละ 759,000 จักรยานตัวละ 484,000″ ตามที่มีรายงานไปก่อนหน้านี้นั้น
ล่าสุด 6 มิ.ย. 2567 นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดกรุงเทพฯ ได้ออกมาแถลงถึงประเด็นดังกล่าว โดยระบุว่าต้องทำการตรวจสอบดำเนินเพราะเป็นอำนาจระดับกองในเรื่องความไม่โปร่งใส ว่าโครงการเล็ดรอดไปได้อย่างไร แต่ปฏิเสธไม่ได้ เพราะผมเป็นผู้ว่าฯ ตรงนี้ต้องรับผิดชอบ เชื่อว่าราคาอาจจะเป็นปรับราคาที่เคยซื้อมาแล้ว แต่เราต้องไม่มองแค่ในกรณีนี้ ต้องปรับปรุงทั้งระบบ ยืนยันไม่ได้เกี่ยวกับผู้ว่าฯ คนเก่า มันอยู่ในงบประมาณนี้ คิดว่าน่าจะมีข้อจำกัดในเรื่องของเวลา ทำให้มีการใส่งบเพื่อเร่งรีบเข้าสภาฯ
ทั้งนี้ ตนบอกไม่ได้แพงหรือไม่แพง แต่เราเอะใจ ถ้าประชาชนเอะใจ แล้วเราไม่เอะใจ ก็บ้าแล้ว ต้องไปไล่ตรวจคนตรวจรับงาน เดี๋ยววันนี้จะมอบหน้าที่ให้พาไปดูเลย เพราะเป็นของประชาชนอยู่แล้ว
ด้านสมบูรณ์ หอมนาน รองปลัดกรุมเทพมหานครเปิดเผยว่า พ.ร.บ.การจัดซื้อจัดจ้าง กรรมการต้องไปสืบราคาท้องตลาดไม่น้อยกว่า 3 ราย ซึ่งต้องเป็นผู้ประกอบอาชีพนั้นๆ
ทุกการจัดซื้อมีการลงในบัญชีกลาง สามารถตรวจสอบได้ มีหน่วยงานเข้ามาตรวจสอบ และเราก็ยินดีให้ตรวจสอบ การซื้อเราประกาศไปเป็นสาธารณะ รับซื้อจากบริษัททางร้าน และร้านต่างๆ ก็ต้องรับความเสี่ยงว่าต้องมีความแข็งแรงทนทานถ้าเกิดชำรุดเสียหายก็ต้องมาเปลี่ยนให้ และมีประชาชนใช้งานทุกวัน ทั้งนี้ถ้าซื้อ 30,000 หรือ ซื้อ 200,000 บาท ถ้าทำได้ก็ทำ แต่มันต้องเป็นไปสตามสเป็คของเครื่อง