หน้าแรกการเมือง'ชัชชาติ'นำทีมกทม. ตรวจสอบความพร้อม'ทางยกระดับรามคำแหง'ดีเดย์เปิดใช้งาน 15 มิ.ย.นี้

‘ชัชชาติ’นำทีมกทม. ตรวจสอบความพร้อม’ทางยกระดับรามคำแหง’ดีเดย์เปิดใช้งาน 15 มิ.ย.นี้

ช่วงเย็นวานนี้(6 มิ.ย.) นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร พร้อมด้วยนายวิศณุ ทรัพย์สมพล รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ลงพื้นที่ตรวจความเรียบร้อยการรื้อย้ายและก่อสร้างทางยกระดับรามคำแหงกลับคืนก่อนเปิดการจราจร ในพื้นที่เขตบางกะปิ โดยมีนายไทวุฒิ ขันแก้ว ผู้อำนวยการสำนักการโยธา นายมนูศักดิ์ บินยะฟัล รองผู้อำนวยการสำนักการโยธา คณะผู้บริหารสำนักการโยธา สถานีตำรวจนครบาลพื้นที่ ข้าราชการ เจ้าหน้าที่สำนักการโยธา และบริษัทผู้รับจ้างฯ ร่วมลงพื้นที่
.
สำหรับโครงการทางยกระดับรามคำแหง เป็นทางยกระดับขนาดสี่ช่องจราจร 2 ทิศทาง ก่อสร้างมาแล้วประมาณ 22 ปี และเนื่องจากโครงการก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีส้ม ซึ่งก่อสร้างในแนวบริเวณถนนรามคำแหง เป็นช่วงของรถไฟฟ้าใต้ดิน ดังนั้นหลังคาของสถานีรถไฟฟ้าสายสีส้ม (สถานีรามคำแหง 12) จะต้องอยู่ใต้โครงสร้างของทางยกระดับรามคำแหงช่วงทางลงฝั่งขาเข้า ระยะทางยาวประมาณ 3,500 เมตร การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) จึงได้ยื่นขออนุญาตต่อกรุงเทพมหานคร เพื่อดำเนินการรื้อย้ายทางยกระดับบางส่วน และดำเนินการก่อสร้างสถานีรถไฟฟ้าดังกล่าว
.
ทั้งนี้เมื่อการก่อสร้างในส่วนที่เกี่ยวข้องแล้วเสร็จ รฟม. จะดำเนินการก่อสร้างทางยกระดับช่วงที่รื้อย้ายกลับคืน ซึ่งที่ผ่านมาปัญหาการก่อสร้างทางยกระดับดังกล่าวมีประชาชนร้องเรียนเข้ามาเป็นจำนวนมาก เกี่ยวกับการดำเนินการก่อสร้างที่มีความล่าช้ายาวนานมาแล้วกว่า 4 ปี ทำให้การจราจรย่านรามคำแหงติดสาหัสเกือบทุกวัน สำนักการโยธา กทม. ในฐานะหน่วยงานรับผิดชอบดำเนินการพิจารณาอนุญาตโครงการฯ ได้มีการติดตามความคืบหน้าอย่างต่อเนื่อง ซึ่งปัจจุบันงานก่อสร้างทางยกระดับรามคำแหงกลับคืน เกือบจะแล้วเสร็จสมบูรณ์ 100%
.
นายวิศณุ ยืนยันว่า ทางยกระดับรามคำแหง จะพร้อมเปิดการจราจรได้ในวันที่ 15 มิ.ย. 65 ตั้งแต่เวลา 05.00 น. เป็นต้นไป โดยนายชัชชาติ ได้กำชับให้ผู้รับจ้างติดตั้งป้ายประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนทราบกำหนดการเปิดการจราจรทางยกระดับดังกล่าว และติดตั้งไฟฟ้าแสงสว่างให้เพียงพอ ก่อนเปิดการจราจรให้พี่น้องประชาชนได้สัญจรอย่างปลอดภัย
.

ThePOINT #ข่าวการเมือง #กทม #ชัชชาติสิทธิพันธุ์ #ผู้ว่ากทม #สก #ทางยกระดับรามคำแหง

Must Read

Related News

- Advertisement -