เมื่อวันที่ 19 พ.ค. 2566 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายอะตอม สัมพันธภาพ ได้ให้สัมภาษณ์ความเห็นเรื่องการ แก้กฎหมายอาญา มาตรา 112 ของพรรคก้าวไกล ว่า ถ้าตามระบอบประชาธิปไตย อันมีพระมหากษัตริย์ ทรงเป็นพระประมุข ก็ต้องยอมรับว่า คะแนนเสียงที่พรรคก้าวไกล ได้รับนั้นเป็นคะแนนเสียงที่ชอบธรรม แต่จะจัดตั้งรัฐบาลสำเร็จหรือไม่ ตนคิดว่า ปัจจัยแรกต้องดูกันที่เรื่องคดีหุ้นสื่อ ว่าผลสรุปจะออกมา ทันกับการจัดตั้งรัฐบาลหรือเปล่า แต่เชื่อว่าน่าจะมีการจัดตั้งรัฐบาลก่อน แต่คงอยู่ไม่ครบเทอม
สำหรับ นโยบาย แก้กฎหมาย ม.112 ของพรรคก้าวไกล ตนเห็นว่าไม่สมควร เพราะบทบัญญัติ ม.112 หรือ แม้แต่ 116 เป็นบทบัญญัติที่ไม่ได้ทำให้ประชาชนส่วนใหญ่เดือดร้อน มีเพียงกลุ่มคนบางกลุ่ม ที่เดือดร้อน เนื่องจากไม่สามารถจะก้าวล่วง หรือจาบจ้วง สถาบัน ตามอำเภอใจได้
ตนอยากฝากไปถึง นายพิธา ให้ศึกษาดูให้ดีๆ ต้องดูประชาชนทุกกลุ่ม ทุกเจเนอเรชั่นด้วย ว่าคิดเห็นอย่างไร กับการที่จะแก้กฎหมาย ม.112 เพราะประเทศไทยไม่ใช่มีคนเพียงเจเนอเรชั่นเดียว แล้วยังต้องดูประชาชนส่วนใหญ่ด้วยว่า ถ้าคำนวณจากร้อยเปอร์เซ็นต์ คนที่สนับสนุนให้แก้ เกิน 50 เปอร์เซ็นต์ หรือไม่ ถ้าไม่เกินแล้วยังดึงดันจะแก้ไข ก็อาจจะกลายเป็นปัจจัยที่นำไปสู่ความขัดแย้งบานปลายในสังคมได้