ภายหลังมีการตอบโต้เกิดวิวาทะกันไปมาของพรรคฝ่ายค้าน ระหว่างพรรคเพื่อไทยและพรรคก้าวไกล จากการลงมติสูตรคิดคำนวณส.ส.ปาร์ตี้ลิส ซึ่งพรรคเพื่อไทยไม่พอใจพรรคก้าวไกล โดยมองว่าเป็นการฝ่ามติวิปฝ่ายค้านลงมติหาร 500 นั้น
.
ล่าสุดนายพิจารณ์ เชาวพัฒนวงศ์ ส.ส. และประธานวิปพรรคก้าวไกล ออกมาโพสต์เฟซบุ๊กระบุว่า ข้อเท็จจริง จากการประชุมวิปร่วมฝ่ายค้าน.ในการประชุมวิปของพรรคร่วมฝ่ายค้าน ของเช้าวันอังคารที่ 5 กรกฎาคม เวลา10.00น ณ ห้องM1 หลังบัลลังก์ อาคารรัฐสภา โดยมีประธานวิปสุทิน คลังแสง เป็นประธานที่ประชุม และ คุณหมอชลน่าน ศรีแก้ว เข้าร่วม รวมถึงตัวแทนจากพรรคร่วมฝ่ายค้านทุกพรรค
.
เลขาธิการพรรคก้าวไกล ชัยธวัช ตุลาธน ผม และสส. ปกรณ์วุฒิ อุดมพิพัฒน์สกุล ได้ยืนยันจุดยืนของพรรคก้าวไกลอย่างชัดเจนในที่ประชุม ว่าเราเห็นด้วยกับ สูตรหาร100 ในแบบที่ สส.ปกรณ์วุฒิได้สงวนคำแปรญัตติ เพื่อให้แก้ไขปัญหา สส. ปัดเศษที่เคยเกิดขึ้นในอดีต โดย สส.ปกรณ์วุฒิ ยังได้อธิบายในรายละเอียดของคำแปรญัตติ และวิธีการคำนวนให้ที่ประชุมได้รับทราบอีกด้วย
.
จึงเป็นที่มาที่พรรคก้าวไกล จะไม่ลงมติ “เห็นด้วย” กับร่างของกรรมาธิการที่ไม่มีการแก้ไข เพราะเป็นสูตรหาร100 ที่ไม่ได้แก้ปัญหา สส. ปัดเศษ ซึ่งในที่ประชุม ผมยืนยันได้ว่า อย่างน้อย 2ท่าน ที่รับทราบเจตนานี้เป็นอย่างดี ก็คือ คุณหมอชลน่าน และประธานวิปสุทิน เพราะเรายังถกกันต่อเนื่อง ว่า หากก้าวไกลยืนยันแบบนี้
- การลงมติ ในคำถามที่1 และ2 จะเป็นอย่างไร
- จะทำให้สูตรหาร100 แพ้หรือไม่ เพราะเสียงของก้าวไกลจะไปรวมกับกลุ่มที่เอาสูตรหาร500 ในคำถามแรก
.
ผมเองยังแสดงความเห็นว่า หากเรารวบรวมเสียงได้มากพอ ยังไงเราก็จะชนะในคำถามที่สองอยู่แล้ว ไม่น่าห่วง.(แต่หากเราชนะในคำถามที่หนึ่ง ก็จะได้สูตรหาร100 ที่ขาดความสมบูรณ์ ซึ่งต้องเรียนว่า พรรคก้าวไกล มีการหารือในที่ประชุม สส. อย่างรอบคอบ ว่าเห็นด้วยให้ สส. ปกรณ์วุฒิถอนคำแปรญัตติหรือไม่ แต่ที่ประชุมเห็นว่า สูตรหาร100 แบบที่ สส.ปกรณ์วุฒิเสนอ จะสะท้อนเสียงของประชาชนได้อย่างแท้จริง เพราะแก้ไขปัญหา สส.ปัดเศษได้)
.
คุณหมอชลน่านยังได้เสนอให้ สส. จุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ เป็นผู้เสนอต่อประธานในที่ประชุม ขอให้ตั้งคำถามแรก ในลักษณะที่ให้ ที่ประชุมจะเลือกอะไร ระหว่างหาร500 กับ หาร100 ไปเลย เพื่อให้ก้าวไกลสามารถมาโหวตร่วมกับเพื่อไทยตั้งแต่คำถามแรก อีกด้วย นอกจากนั้น ในรายงานการประชุมวิป จะเห็นได้ว่า ไม่มีการบันทึกว่า มติของพรรคร่วมฝ่ายค้านในการลงมติประเด็นนี้คืออะไร เพราะหาข้อสรุปร่วมกันทุกพรรคไม่ได้
.
ผมเห็นว่า - การรายงานข่าวของสำนักข่าวต่างๆ ทั้งที่อ้างอิงและไม่อ้างอิง คนของพรรคเพื่อไทย มีความคลาดเคลื่อนจากข้อเท็จจริงเป็นอย่างมาก
- การแสดงความเห็นของ พี่น้องประชาชน และ นักการเมือง ที่ไม่ได้เข้าร่วมการประชุม ก็มีความเข้าใจผิด
- แต่หากเป็นผู้ที่เข้าร่วมการประชุมวิป ผมไม่แน่ใจว่าจะเรียกว่า เข้าใจผิด หรือ จงใจทำให้ประชาชนเข้าใจผิด??
.
ผมรู้สึกผิดหวังกับการตัดสินใจของเสียงส่วนใหญ่ในรัฐสภา ที่เป็นการแก้ไขวิธีการคำนวนเพียงเพื่อเป็นนั่งร้านให้กับพลเอกประยุทธ์ในการสืบทอดอำนาจ หรือ เพื่อประโยชน์ส่วนตนมากกว่าหลักการที่ถูกต้อง และผมจะเสียใจเป็นอย่างมาก หากสูตรหาร100 จะไม่ผ่านสภา เพราะเสียงของ สส. พรรคก้าวไกล และคงจะเข้าใจความรู้สึกของพรรคเพื่อไทย หากแพ้โหวตเพราะก้าวไกล
.
แต่จากผลการลงมติ ในคำถามที่สอง เราเห็นได้ชัดว่า เพื่อไทย ก้าวไกล และเสียงของกลุ่มที่เห็นด้วยในสูตรหาร100 มีไม่มากพอ ที่จะชนะ หรือแม้กระทั่งว่า พรรคก้าวไกล จะยอมโหวต “เห็นด้วย” ร่วมกับในคำถามที่1 แล้วได้สูตรหาร100 ที่ไม่สมบูรณ์ ก็ไม่สามารถชนะอยู่ดี ผมจึงต้องตั้งคำถามดังๆว่า การออกมาแสดงความเห็นต่างๆในช่วง2วันนี้ เป็นเพียงกระบวนการทำลายความน่าเชื่อถือ และศรัทธาที่ประชาชนมีต่อพรรคก้าวไกลหรือไม่??
.
ปล. ด้วยความเคารพ ขออภัยที่พาดพิงบุคคลต่างๆที่กล่าวข้างตน แต่ผมขอยืนยันว่าทั้งหมดเป็นข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้นในการประชุมวิปร่วมฝ่ายค้าน
.